อัยการสหรัฐอเมริกาอยู่ระหว่างการสืบสวนกระบวนการทำงานของ Signature Bank กับลูกค้าในกลุ่มคริปโตเคอร์เรนซี ก่อนที่หน่วยงานกำกับจะเข้ามาควบคุมการปล่อยกู้ของบริษัทในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ฝ่ายสืบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ในวอชิงตันและแมนฮัตตันตั้งข้อสงสัยว่า ดำเนินการดีเพียงพอหรือไม่สำหรับการตรวจสอบในเรื่องของการฟอกเงินของลูกค้าต่างๆ เช่น การกลั่นกรองบุคคลที่มาเปิดบัญชี และสอดส่องธุรกรรมที่มีสัญญาณว่าอาจจะเป็นเรื่องของอาชญากรรม ขณะที่ ก.ล.ต. สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ธนาคารและพนักงานของธนาคารยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาว่ากระทำความผิดใดๆ และการสืบสวนอาจจบลงโดยที่ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ตามมาอีกก็เป็นได้ ทั้งนี้หน่วยงานกำกับได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าพวกเขาหมดความเชื่อถือในทีมบริหาร หลังจากที่ธนาคารไม่สามารถให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและสอดคล้องกันได้
ด้าน Michael Driscoll ผู้ช่วยผู้อำนวยการของ FBI สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า “FBI และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้ตลาดคริปโตเป็นตลาดที่ปราศจากการทำผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับตลาดการเงินอื่นๆ”
ล่าสุดธนาคารทั้ง 3 แห่งที่ต้องปิดตัวลง ได้แก่ Silvergate Capital, Silicon Valley Bank และ Signature Bank กำลังเผชิญกับการสืบสวนสอบสวนโดยหน่วยงานยุติธรรมของสหรัฐฯ
โดย Silvergate Capital อยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับ Sam Bankman-Fried ผู้ก่อตั้ง FTX และ Alameda Research ขณะที่อัยการและ ก.ล.ต. สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบว่าการล้มละลายของ SVB เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นโดยผิดกฎการซื้อขายหรือไม่
ขณะที่ผู้บริหารของ Signature Bank กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ทีมบริหารตั้งใจที่จะลดการปล่อยเงินกู้มากถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่ปล่อยให้กับลูกค้าในกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจำนวนดังกล่าวคิดเป็นกว่า 1 ใน 5 ของฐานเงินฝาก แต่ล่าสุดบริษัทยังคงเก็บบางส่วนในจำนวนนี้เอาไว้
ขณะที่ซีอีโอของ SVB อย่าง Greg Becker ขายหุ้นของบริษัทออกไปเกือบ 30 ล้านหุ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามตามมาว่าเป็นการใช้ข้อมูลภายในเพื่อซื้อขายหุ้นหรือไม่ (Insider Trading)
โดยรายงานระบุว่า Becker ขายหุ้นคิดเป็นมูลค่า 3.6 ล้านดอลลาร์ หรือราว 124 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพียงแค่ไม่กี่วันก่อนที่ธนาคารจะเปิดเผยผลขาดทุนจำนวนมากจนนำไปสู่การร่วงลงอย่างหนักและต้องปิดตัวลงในที่สุด และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Becker ขายหุ้นออกไปคิดเป็นมูลค่ารวม 29.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1 พันล้านบาท อิงจากข้อมูลของ Smart Insider โดยขายหุ้นที่ราคาระหว่าง 287-598 ดอลลาร์ต่อหุ้น
นอกจากนี้ Michelle Draper ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด (CMO), Daniel Beck ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) และ Philip Cox ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ยังได้ขายหุ้นออกมาคิดเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์นับแต่ปี 2021
รวมทั้งหมดแล้วผู้บริหารของ SVB และผู้อำนวยการของบริษัท ขายหุ้นรับเงินสดไปรวม 84 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.89 พันล้านบาท ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิดปม ‘Silicon Valley Bank’ ประสบเหตุ Bank Run และถูกสั่งปิดชั่วคราว พร้อมหาคำตอบว่าวิกฤตนี้จะลุกลามแค่ไหน?
- บรรดาหุ้นแบงก์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ถูกถล่มขายกว่า 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ หวั่นวิกฤต ‘Bank Run’ กระทบสภาพคล่องรุนแรง
- เหรียญ USDC หลุด Peg หลังพบว่า Circle มีเงิน 3.3 พันล้านดอลลาร์อยู่ใน Silicon Valley Bank ที่เพิ่งล้ม
อ้างอิง: