วานนี้ (13 ธันวาคม) นักวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้านพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชัน ยืนยันได้พลังงานสุทธิ (Net Energy Gain) เป็นครั้งแรกในการทดลองสร้างปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันด้วยเลเซอร์ ซึ่งในอนาคตจะเป็นพลังงานที่ช่วยมนุษย์ต่อสู้กับวิกฤตโลกรวนได้หากสามารถผลิตได้ในระดับพาณิชย์ แม้อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายทศวรรษก็ตาม
รายงานจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์จากห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ (Lawrence Livermore National Laboratory) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประสบความสำเร็จในการทดลองสร้างปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันด้วยเลเซอร์ หลังให้พลังงานออกมาเป็นบวกเป็นครั้งแรก โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ยิงเลเซอร์ 192 ลำไปที่แคปซูลทรงกลมที่บรรจุเชื้อเพลิงไว้ เพื่อให้ความร้อนสูงจนทำให้อะตอม 2 อะตอมรวมกันกลายเป็นธาตุใหม่ และปลดปล่อยพลังงานออกมามากเกินกว่าที่จ่ายเข้าไปในห้องทดลอง
คิมเบอร์ลีย์ บูดิล (Kimberly Budil) ผู้อำนวยการของลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ณ งานแถลงข่าวของกระทรวงพลังงานว่า การผลิตพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันในเชิงพาณิชย์นั้นอาจไม่ได้ใช้เวลานานถึง 50-60 ปีอย่างที่เคยคาดการณ์กันไว้ ‘แต่อาจจะเร็วกว่านั้น’ เพราะด้วยความร่วมมือและการร่วมลงทุนจากหลายฝ่ายในปัจจุบัน ทำให้มนุษย์อาจใช้เวลาอีกเพียงแค่ราว 20-30 ปี เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีจนสามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้
อารตี ประภาคาร์ (Arati Prabhakar) ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งทำเนียบขาว ซึ่งเคยทำงานที่ลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ในช่วงสั้นๆ เมื่อปี 1978 สมัยยังเป็นวัยรุ่น กล่าวว่า “การทดลองนี้เป็นตัวอย่างอันยิ่งใหญ่ถึงความสำเร็จที่เกิดจากความมานะอุตสาหะ”
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์หลายคนเชื่อว่าแม้ความสำเร็จครั้งนี้จะถือเป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ แต่ยังมีการวิจัยและพัฒนาที่ต้องดำเนินการต่อไปอีกมาก กว่าที่โลกจะสามารถผลิตพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันที่มากพอจะใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ โดยเดบรา คอลลาฮาน (Debra Callahan) ซึ่งทำงานที่ลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ก่อนหน้านี้ และปัจจุบันเป็นนักวิทยาศาสตร์อาวุโสของ Focused Energy กล่าวว่า ผลการทดลองที่เกิดขึ้นอาจช่วยจุดประกายให้บริษัทต่างๆ ร่วมกันค้นหาวิธีสร้างเลเซอร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเร่งการพัฒนาด้านพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันให้เข้าใกล้ความจริงขึ้นอีกขั้น
หากพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันสามารถใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ก็จะสร้างประโยชน์หลากหลายด้าน รวมถึงการผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ปราศจากคาร์บอน ซึ่งสามารถช่วยพวกเราต่อสู้กับภาวะโลกรวน เนื่องจากไม่ทิ้งกากกัมมันตรังสีจำนวนมากเหมือนการผลิตไฟฟ้าจากเตาปฏิกรณ์ในปัจจุบัน อีกทั้งยังไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุด้านนิวเคลียร์
ภาพ: Chip Somodevilla / Getty Images
อ้างอิง:
