×

เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวแกร่ง ยอดเปิดรับสมัครงานพุ่งแตะ 10 ล้านตำแหน่ง ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

11.08.2021
  • LOADING...
USA Economy

สำนักงานสถิติ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจจำนวนการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนแรงงานในเดือนมิถุนายน พบตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน หรือตำแหน่งงานว่าง ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 590,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมก่อนหน้ามาอยู่ที่ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ทำสถิติแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนธันวาคม ปี 2000 อีกทั้งยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 9.27 ล้านตำแหน่ง

 

ตัวเลขตำแหน่งงานที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนี้มีขึ้นท่ามกลางบรรดาธุรกิจและกิจการในหลายอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับมาดำเนินการได้ตามปกติอีกครั้ง โดยเฉพาะในภาคการโรงแรมและสันทนาการ ซึ่งสอดคล้องกับรายงานการว่างงานในเดือนกรกฎาคมที่มีการเปิดเผยก่อนหน้าว่า ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 5.4%

 

สำหรับตำแหน่งงานว่างที่เพิ่มมากขึ้นในเดือนมิถุนายน ส่วนใหญ่คืองานด้านธุรกิจบริการ ค้าปลีก ที่พักโรงแรม และร้านอาหาร โดยนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนเชื่อว่า การจ้างงานจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในช่วงที่โรงเรียนกลับมาเปิดเทอมในเดือนกันยายน และผู้คนจะเริ่มหันกลับมาหางานทำมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลท้องถิ่นหลายรัฐทยอยยกเลิกโครงการเงินช่วยเหลือการว่างงาน

 

ขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์อีกส่วนหนึ่งยังมั่นใจด้วยว่า ระดับการว่างงานของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวมาอยู่ในระดับเดียวกันกับก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิดในปีหน้า โดย โกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ จะลดลงมาอยู่ที่ 3.5% ภายในสิ้นปี 2022 หลังจากทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดถึง 14.8% ในช่วงเริ่มต้นการระบาด

 

แม้ตำแหน่งงานว่างจะเพิ่มมากขึ้น แต่โรคโควิดสายพันธุ์เดลตาก็ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงคุกคามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ทำให้นักวิเคราะห์หวั่นใจว่า หลายพื้นที่อาจต้องกลับมายกระดับคุมเข้มมาตรการป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาด โดยขณะนี้ ในนครนิวยอร์ก บรรดาร้านอาหาร โรงยิม และธุรกิจภายในอาคารทุกประเภทต่างออกกฎบังคับให้พนักงานและลูกค้าต้องฉีดวัคซีนโควิดให้ครบโดสก่อนกลับมาทำงานหรือเข้าใช้บริการ ขณะเดียวกัน ทางเทศบาลนครนิวยอร์กก็มีคำสั่งยกเลิกงานแสดงรถยนต์ออโต้โชว์ ระหว่างวันที่ 20-29 สิงหาคม เนื่องจากกลัวว่าอีเวนต์ดังกล่าวจะทำให้อัตราการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น

 

ถึงจะมีปัจจัยเปราะบาง แต่ตัวเลขตำแหน่งงานว่างที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับตัวเลขการจ้างงานที่ 943,000 ตำแหน่งในเดือนกรกฎาคม ได้ช่วยตอกย้ำให้นักวิเคราะห์ นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญ ส่วนหนึ่งมั่นใจได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หนึ่งในนั้นก็คือ เจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ประจำเซนต์หลุยส์ ซึ่งออกมาแสดงความเห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวที่เพียงพอให้เฟดเริ่มลดปริมาณซื้อคืนพันธบัตรรายเดือนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อคุมอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นสภาพคล่องและเศรษฐกิจ

 

ความเห็นของบูลลาร์ดครั้งนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งเสียงเรียกร้องจากทั้งภายในและภายนอกเฟด ที่ต้องการให้เฟดเริ่มต้นพิจารณาปรับลดวงเงินคิวอีได้แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงสงวนท่าที เนื่องจากต้องการรอดูรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยภายในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันนี้ (11 สิงหาคม) และเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) มาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตในวันพรุ่งนี้ (12 สิงหาคม)

 

ทั้งนี้ หากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินเบื้องต้นว่า ดัชนี CPI เดือนกรกฎาคมจะขยับอยู่ที่ 5.3% บวกกับการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ก็จะเปิดทางสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ โดยเฟดน่าจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ระหว่างวันที่ 26-28 สิงหาคมนี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising