สหรัฐฯ เตรียมส่งระเบิดลูกปรายช่วยเหลือยูเครน ไบเดนเผย ตัดสินใจลำบาก แต่จำเป็นต้องทำ

รัฐบาลสหรัฐอเมริกาตัดสินใจเตรียมส่ง ‘ระเบิดลูกปราย’ (Cluster Munitions) ช่วยเหลือกองกำลังยูเครนในสมรภูมิสงครามที่กำลังสู้รบกับกองทัพรัสเซียอยู่ในขณะนี้ ท่ามกลางการแสดงความกังวลจากหลายฝ่าย เนื่องจากระเบิดลูกปรายถือเป็นหนึ่งในอาวุธที่เคยมีประวัติสร้างบาดแผลและคร่าชีวิตพลเรือนไปเป็นจำนวนมาก

องค์การสหประชาชาติเคยเรียกร้องให้ทั้งรัสเซียและยูเครนเลี่ยงการใช้อาวุธชนิดนี้ โดยปัจจุบันมีมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลกที่ประกาศแบนการใช้ระเบิดลูกปราย

ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เผยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมาก สหรัฐฯ ทราบดีถึงประวัติศาสตร์บาดแผลที่เคยเกิดขึ้นจากการใช้อาวุธประเภทนี้ แต่ครั้งนี้จำเป็นต้องทำ เนื่องจากกระสุนของกองกำลังยูเครนกำลังจะหมดลงในไม่ช้า และนั่นอาจนำไปสู่การพ่ายแพ้ในสงครามครั้งนี้ของยูเครน ซึ่งอาจจะยิ่งทำให้ผลลัพธ์ของสงครามรัสเซีย-ยูเครนเลวร้ายมากยิ่งขึ้นไปอีก

โดยไบเดนได้ปรึกษาหารือและพูดคุยกับบรรดาประเทศพันธมิตรถึงการตัดสินใจดังกล่าวแล้ว ซึ่งมีขึ้นก่อนหน้าที่บรรดาผู้นำประเทศสมาชิก NATO จะเดินทางเข้าร่วมสุดยอดการประชุม NATO ที่จะจัดขึ้นในกรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของลิทัวเนีย ในช่วงสัปดาห์หน้านี้

ขณะที่ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ ตระหนักดีว่าอาวุธชนิดนี้อาจเพิ่มความเสี่ยงอันตรายให้กับบรรดาพลเรือนทั้งหลาย และนี่เป็นเหตุผลสำคัญที่เราเลื่อนการตัดสินใจในประเด็นนี้ออกไปให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ยูเครนกำลังขาดแคลนอาวุธและเราจะไม่ปล่อยให้พวกเขาไร้ที่พึ่งท่ามกลางสมรภูมิการสู้รบครั้งนี้

ทางด้าน มาร์ตา ฮูร์ตาโด เจ้าหน้าที่สื่อสารองค์กรประจำสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่า การใช้ระเบิดลูกปรายควรจะต้องยุติลงในทันที และอาวุธชนิดนี้ไม่ควรถูกใช้ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ใดก็ตาม

โดยผู้แทนรัสเซียต่างประณามการตัดสินใจดังกล่าวของสหรัฐฯ พร้อมทั้งระบุว่า ระเบิดลูกปรายจะทำให้ผู้คนบริสุทธิ์เผชิญความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครนได้กล่าวขอบคุณไบเดน สำหรับแพ็กเกจความช่วยเหลือทางด้านการทหารที่มีให้ยูเครนมาอย่างต่อเนื่อง เขาให้คำมั่นว่าจะนำพายูเครนเข้าใกล้ชัยชนะเหนือกองทัพรัสเซีย และจะนำพาประชาธิปไตยคว้าชัยเหนือระบอบเผด็จการให้จงได้

แฟ้มภาพ: Nathan Posner / Anadolu Agency via Getty Images

อ้างอิง: