สหรัฐอเมริกาอนุมัติแผนโจมตีฐานกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านทั้งในอิรักและซีเรียแล้ว เพื่อตอบโต้กรณีโดรนสังหารทหารอเมริกันเสียชีวิต 3 นาย และได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบนาย ที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์แดน ใกล้กับชายแดนซีเรีย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่า โดรนที่ใช้โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในครั้งนี้ผลิตขึ้นโดยอิหร่าน และเป็นโดรนชนิดเดียวกันกับที่อิหร่านส่งมอบให้กับรัสเซียเพื่อนำไปใช้สู้รบในสงครามยูเครน อีกทั้งยังเป็นฝีมือของกลุ่ม Islamic Resistance ในอิรัก ที่เชื่อกันว่าได้รับการฝึกฝนและสนับสนุนโดยกองกำลังอิหร่าน แม้อิหร่านจะออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีในครั้งนี้ก็ตาม
ทางด้าน ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ชี้แจงถึงการตัดสินใจตอบโต้ว่า “เราจะตอบโต้ในพื้นที่ที่เราเลือก ในจังหวะเวลาที่เราเลือก และด้วยวิธีการที่เราเลือก” ขณะหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ดูเหมือนการตัดสินใจดังกล่าวอาจล่าช้าเกินไป
“ผมคิดว่าทุกคนทราบดีถึงความท้าทายในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าใครคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น”
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังเผยอีกว่า กองทัพสหรัฐฯ สามารถโต้กลับได้แม้จะอยู่ในช่วงสภาพอากาศที่เลวร้าย แต่ทางกองทัพตัดสินใจที่จะให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นดีขึ้นกว่านี้ก่อน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะโจมตีโดนพลเรือนโดยไม่ตั้งใจได้
ด้าน โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันจากสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันให้โจมตีตอบโต้อิหร่าน ก็ยืนยันว่า สหรัฐฯ ไม่ได้แสวงหาการทำสงครามกับอิหร่าน หรือเพิ่มความตึงเครียดให้กับภูมิภาคนี้แต่อย่างใด จึงทำให้แผนตอบโต้ที่ได้รับการอนุมัติในครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่กองกำลังที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านทั้งในอิรักและซีเรีย ไม่ใช่การโจมตีอิหร่านโดยตรง
ภาพ: Alex Wong / Getty Images
อ้างอิง: