วันนี้ (26 มกราคม) พล.ร.อ. อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย (จัสแมกไทย) ขอเข้าทำหนังสือเพื่อขอตรวจสอบกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เพราะเป็นยุทโธปกรณ์ที่จัดหาจากสหรัฐฯ ภายหลังมีกระแสข่าวว่าบริษัทที่เป็นความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนได้รับการคัดเลือกมากู้เรือหลวงสุโขทัย
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า สหรัฐฯ จะเข้ามาช่วยเราในทุกๆ เรื่อง โดยใช้การฝึก Cobra Gold สำหรับการให้บริษัทเข้ามากู้เรือหลวงสุโขทัยนั้นก็ให้ชะลอไปก่อน เพราะสหรัฐฯ ยินดีช่วยเหลือเรา เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียงบประมาณเมื่อเป็นผลสำเร็จ เรือลำนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามกฎระเบียบของสหรัฐฯ
ทั้งนี้การที่สหรัฐฯ จะลงไปสำรวจนั้นจะดำเนินการทั้งหมดเปรียบเสมือนพี่เลี้ยงของเรา ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่เป็นขั้นตอนปกติ แต่เป็นการให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ครั้งหนึ่ง โดยตนเป็นคนไปเจรจากับสหรัฐฯ ด้วยตัวเอง เบื้องต้นยังไม่จำเป็นต้องกู้เรือหลวงสุโขทัยขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่าจะต้องดำเนินการในขั้นตอนใดบ้าง คาดว่าจะเป็นที่พึงพอใจของประชาชนทุกคน ซึ่งขออย่าใช้คำว่ากู้เรือ เพราะมีอีกหลายวิธีที่สามารถช่วยเราได้ เช่น เครื่องมือที่มีความพร้อม โดยการที่เราไม่ได้ติดต่อเขาตั้งแต่ต้นเพราะอยากจะยืนด้วยตัวเองก่อน
พล.ร.อ. อะดุง เปิดเผยอีกว่า ถือเป็นความร่วมมือที่ดีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ขณะนี้รอทางสหรัฐฯ ตอบกลับคำขอของไทยอยู่
เมื่อถามว่า จะเป็นการเอาอาวุธปืนขึ้นมาบางส่วนใช่หรือไม่ พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า ใช่ เราเสนอไปหลายเรื่อง ทั้งเรื่องอาวุธ และสหรัฐฯ จะเข้ามาดูศพที่คาดว่าอยู่ในเรือด้วย
ทั้งนี้ พล.ร.อ. อะดุง กล่าวอีกว่า เรื่องการประมูลบริษัทมากู้เรือหลวงสุโขทัยนั้นให้ชะลอไปก่อน โดยย้ำว่า เรือหลวงสุโขทัยจะขึ้นมาหรือไม่นั้นไม่สำคัญเท่าชีวิตลูกน้องที่คาดว่าอยู่ในเรือ และเรื่องอมภัณฑ์ต่างๆ ถ้าสหรัฐฯ ช่วยได้เสร็จสิ้น เราจะพิจารณาอีกครั้ง ถ้าสหรัฐฯ ช่วยเราครั้งนี้แล้วตอบโจทย์ทั้งหมดก็อาจทิ้งไว้ให้เป็นอนุสรณ์สถานใต้ทะเล ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น
ส่วนงบประมาณกู้เรือที่เราขอรัฐบาลไป ถ้าสหรัฐฯ ช่วยเราแล้วไม่มีค่าใช้จ่ายก็จะคืนรัฐบาล
เมื่อถามว่า แสดงว่าสหรัฐฯ จะช่วยไขสาเหตุเรืออับปางใช่หรือไม่ พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า ใช่ เขาจะลงไปถ่ายรูปแล้วมาเทียบผลสอบสวนที่ พล.ร.อ. ชลธิศ นาวานุเคราะห์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือทำไว้เมื่อปีก่อน
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ หลังเปิดผลสอบสวนออกมาจะมีแรงกระเพื่อมหรือไม่ พล.ร.อ. อะดุง กล่าวว่า ตนเป็นคนทำงานตรงไปตรงมา ข้อมูลและข้อเท็จจริงจะตอบโจทย์เอง ไม่มีเบื้องหลังกับทุกเรื่อง มีแต่เบื้องหลังที่ทำให้ประเทศไทยและกองทัพเรือได้ประโยชน์สูงสุด
ผบ.ทร. เผยกรรมการแก้ปัญหาเรือดำน้ำไร้ สส. ก้าวไกล
พล.ร.อ. อะดุง กล่าวถึงกรณีที่ สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งคณะกรรมการขึ้นมารวบรวมข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นการแก้ไขปัญหาเรือดำน้ำว่า เท่าที่ทราบ สส. พรรคก้าวไกล ไม่ได้เข้ามาเป็นคณะกรรมการ เพราะตามระเบียบแล้วไม่ได้ให้ สส. เป็นคณะกรรมการ ส่วนใหญ่จะเป็นคนของหน่วยงานรัฐ โดยคณะกรรมการชุดนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อหาคำตอบสุดท้ายคำตอบเดียวที่จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมใช้เป็นข้อมูลไปเสนอต่อรัฐบาล โดยเดือนกุมภาพันธ์นี้จะต้องแล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้จะต้องได้รับเชิญให้มาเป็น ซึ่งตนเชื่อว่าการประชุมคณะกรรมการในครั้งนี้จะจบ ขอประชาชนเป็นกำลังใจให้กับกองทัพเรือด้วย พร้อมกันนี้มั่นใจว่าการทำงานครั้งนี้จะจบด้วยเหตุและผล ไม่เกิดความขัดแย้ง
