สายการบินสหรัฐฯ งดเที่ยวบินนับพัน รับมือวิกฤต Shutdown ที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

สายการบินทั่วสหรัฐอเมริกางดเที่ยวบินนับพันไฟลต์เข้าวันที่ 2 ตามมาตรการจำกัดการบินขององค์การบริหารการบินแห่งชาติ (Federal Aviation Administration: FAA) เพื่อลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ นับเป็นผลกระทบจากการ ‘ชัตดาวน์’ รัฐบาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์

วันนี้ (9 พฤศจิกายน) มีรายงานว่า สายการบินทั่วสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 1,000 ไฟลต์ โดยส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักมากที่สุด คือ สนามบินนานาชาติชาร์ลอตต์ ดักลาส รัฐนอร์ทแคโรไลนา หลังมีการยกเลิกเที่ยวบินขาเข้า-ขาออกราว 120 ไฟลต์ในช่วงเที่ยงวันของวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุจราจรเที่ยวบินติดขัดในสนามบิน เช่น แอตแลนตา ชิคาโก ดัลลัส เดนเวอร์ ออร์แลนโด ฟลอริดา และนิวเจอร์ซีย์ ยังไม่รวมเที่ยวบินทั่วประเทศที่ล่าช้ามากกว่า 41,300 ไฟลต์
ทั้งนี้ สำนักข่าว BBC รายงานสถานการณ์ล่าสุดจากสนามบินลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียว่า บรรยากาศเต็มไปด้วยฝูงชนจำนวนมากเพื่อรอขึ้นเครื่องที่ประตู ขณะที่มีคนเข้าแถวยาวเหยียดเพื่อรอตรวจสอบความปลอดภัย แต่สถานการณ์ดีกว่าที่คาดการณ์ว่า เพราะทุกคนไม่โวยวาย สงบนิ่ง และทำตามคำสั่งเจ้าหน้าที่รัฐ

ปรากฏการณ์งดเที่ยวบินสหรัฐฯ เป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์ชัตดาวน์สหรัฐฯ ตั้งแต่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งสร้างผลกระทบวงกว้างต่ออุตสาหกรรมการบินของประเทศ เพราะเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง เช่น เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ และพนักงานรักษาความปลอดภัยสนามบิน ถูกเลิกจ้างชั่วคราว และไม่ได้รับค่าจ้างมานานหลายสัปดาห์ โดยบางคนใช้วิธี ‘ลาป่วย’ หรือ ‘ลาออก’ เพื่อรับมือกับความเหนื่อยล้าในการทำงาน หรือหาช่องทางอื่นๆ ในการสร้างรายได้แทน

ในช่วงที่ผ่านมา FAA รับมือปมชัตดาวน์และการขาดแคลนพนักงาน ด้วยการใช้มาตรการลดเที่ยวบินภายในประเทศทั้งหมด 4% ราว 40 แห่งทั่วประเทศ แม้แต่เมืองใหญ่ในสหรัฐฯ อย่างนิวยอร์ก, ลอสแอนเจลิส, ชิคาโก และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

นอกจากนี้ ฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ยังระบุว่า จำนวนลดเที่ยวบินอาจเพิ่มขึ้นอีกเป็น 10% ในสัปดาห์หน้า และภาวะชัตดาวน์ยังคงอยู่ต่อไป ก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก 20%

อนึ่ง เกรก ไรฟ์ (Greg Raiff) CEO บริษัท Elevate Aviation Group ระบุว่า การชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบทุกอย่างในอุตสาหกรรมการบิน ตั้งแต่เครื่องบินขนส่งสินค้า การเดินทางเข้าร่วมประชุมทางธุรกิจ การเดินทางของนักท่องเที่ยว ตลอดจนธุรกิจโรงแรม ถือเป็นผลกระทบลูกโซ่ระยะยาว

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า หากสหรัฐฯ เผชิญเหตุชัตดาวน์ไปจนถึงช่วงเทศกาลขอบคุณพระเจ้า หรือช่วงวันที่ 27 พฤศจิกายน สถานการณ์ของธุรกิจการบินจะเลวร้ายและรุนแรงยิ่งขึ้น ท่ามกลางตัวเลือกใหม่ของผู้โดยสาร คือ ใช้บริการ ‘รถเช่า’ และยกเลิกเที่ยวบินที่เคยจองไว้

สำหรับทางออกชั่วคราวจากการชัตดาวน์ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้วุฒิสภาพรรครีพับลิกัน รวมเสียงยกเลิก Obamacare ซึ่งเป็นสวัสดิการอุดหนุนเงินค่ารักษาพยาบาล และโยกงบประมาณส่วนนี้มาใช้แก้ไขปัญหาในหน่วยงานสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตครั้งนี้

เหตุการณ์ชัตดาวน์ครั้งนี้ถือว่า ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้น 39 วัน ซึ่งขณะนี้ พรรคเดโมแครตกำลังยื่นข้อเสนอต่อรองกับรัฐบาล ด้วยการขอให้ขยายเวลาลดหย่อนภาษี Obamacare ขณะที่ทรัมป์ส่งสัญญาณไม่ยอมประนีประนอมแต่อย่างใด

ภาพ: Nathan Howard / Reuters

อ้างอิง: