สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจสหรัฐฯ (BEA) ปรับตัวเลขประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาส 3 ครั้งที่ 2 เพิ่มเป็น 2.1% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งก่อนหน้าจากระดับ 1.9% และสูงกว่าไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 2% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ขยายตัวถึง 2.9%
ตัวเลขการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ดีเกินคาด บวกกับข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ที่แข็งแกร่ง เช่น ตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ฟื้นตัวมากกว่าคาดในเดือนตุลาคม ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของสหรัฐฯ ได้เป็นอย่างมาก หลังภาคการผลิตและการลงทุนในธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสงครามการค้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปิดศึกกับจีน
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งยังช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำนิวไฮต่อเนื่องทั้ง 3 ดัชนีหลักเมื่อวานนี้ (27 พฤศจิกายน) โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones เพิ่มขึ้น 42.32 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 28,164 จุด ขณะที่ S&P 500 ปิดที่ 3,153.64 จุด เพิ่มขึ้น 13.11 จุด หรือ 0.42% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,705.18 จุด เพิ่มขึ้น 57.24 06f หรือ 0.66% โดยหุ้นจดทะเบียนรายใหญ่ที่พุ่งขึ้น ทั้ง Apple, Facebook, Amazon และ Netflix มีส่วนช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเมื่อคืนนี้ด้วย
BEA ระบุว่า การขยายตัวของ GDP ในไตรมาส 3 สะท้อนให้เห็นปัจจัยบวกจากภาคการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล, การใช้จ่ายของรัฐบาลกลาง รวมถึงรัฐบาลระดับมลรัฐและท้องถิ่น, การลงทุนด้านที่อยู่อาศัย ตลอดจนการส่งออก ซึ่งช่วยชดเชยปัจจัยลบจากการลงทุนถาวรที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย
รายงานระบุว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนตุลาคม สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของ Wall Street ที่คาดว่าจะหดตัว 0.8% ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าประเภททุนที่ไม่ใช่อาวุธและยกเว้นเครื่องบิน ซึ่งจัดเป็นการลงทุนในภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 1.2% จากที่ประมาณการว่าจะหดตัว 0.5% ในเดือนกันยายน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจในไตรมาส 3 จะแข็งแกร่ง แต่นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากมองว่า การเติบโตในไตรมาส 4 จะชะลอตัวลงอย่างมาก สืบเนื่องจากสงครามการค้าที่ยังไม่ยุติ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: