สำนักงานศุลกากรและป้องกันพรมแดนสหรัฐฯ เตรียมสกัดการนำเข้าสินค้าจากเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาการบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอุยกูร์และอื่นๆ โดยสินค้าที่จะแบนครอบคลุมผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายและมะเขือเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากรายงานที่ระบุว่า รัฐบาลจีนกดขี่ชาวอุยกูร์ในเขตปกครองตนเองซินเจียง โดยองค์กรสิทธิมนุษยชนประเมินว่ามีประชาชนมากถึง 1 ล้านคนที่ถูกกักตัวในค่าย ‘ปรับทัศนคติ’ ในซินเจียงตั้งแต่ปี 2017 โดยส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม
“เรามีหลักฐานที่สมเหตุสมผลแต่ไม่ใช่ข้อสรุปว่า มีความเสี่ยงของการบังคับใช้แรงงานในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับสิ่งทอจากฝ้ายและมะเขือเทศจากซินเจียง” เบรนดา สมิธ ผู้ช่วยอธิบดีสำนักงานศุลกากรฯ เปิดเผยกับสำนักข่าว Reuters พร้อมกล่าวเสริมว่าทางหน่วยงานจะสืบสวนต่อไป เพื่อหาหลักฐานสรุป
ที่ผ่านมาจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกักขังทรมานชาวอุยกูร์หรือชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอื่นๆ โดยยืนกรานว่า ค่ายกักกันที่ต่างชาติมองนั้น เป็นศูนย์ฝึกฝนวิชาชีพ เพื่อฝึกทักษะแก่ชนกลุ่มน้อย ซึ่งจะช่วยให้พวกเขามีงานทำ และท้ายที่สุดจะช่วยแก้ปัญหาการก่อเหตุรุนแรงในซินเจียงได้
ภายใต้คำสั่งใหม่จะเปิดทางให้หน่วยงานพรมแดนยึดสินค้าที่ต้องสงสัยว่าบังคับใช้แรงงาน ภายใต้กฎหมายป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยคาดว่าการประกาศอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: