United Parcel Service (UPS) เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (28 ต.ค.) ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้ปรับลดตำแหน่งงานครั้งใหญ่ถึง 48,000 ตำแหน่งในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับลดพนักงานในหนึ่งปีที่มากที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้านการขนส่งรายนี้กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อควบคุมต้นทุนและฟื้นฟูราคาหุ้นที่ตกต่ำมาอย่างต่อเนื่อง
ในการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามซึ่งออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ UPS ระบุว่าการปรับลดพนักงานครั้งนี้แบ่งออกเป็นตำแหน่งระดับบริหาร 14,000 อัตรา และตำแหน่งในฝ่ายปฏิบัติการอีก 34,000 อัตรา โดยเป็นการผสมผสานกันระหว่างการเลิกจ้างและการเสนอโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด
ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่บริษัทเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้อย่างมาก โดยในเดือนมกราคม 2024 บริษัทมีแผนจะลดตำแหน่งผู้บริหาร 12,000 ตำแหน่ง และในเดือนเมษายนก็ประกาศว่าจะลดตำแหน่งฝ่ายปฏิบัติการอีก 20,000 ตำแหน่ง ซึ่งการเปิดเผยครั้งล่าสุดนี้ยืนยันว่าบริษัทได้ปรับลดพนักงานเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งสองส่วน
แครอล โทเม (Carol Tomé) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่าการปรับลดพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท “เรายังคงค้นพบโอกาสใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เราลดต้นทุนลงได้” เธอกล่าว และเสริมว่า “เราอยู่ในจุดที่พร้อมจะบริหารจัดการช่วงพีค (ฤดูวันหยุด) ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในประวัติศาสตร์ของเรา”
โทเม ซึ่งเป็นผู้บริหารหญิงคนแรกและเป็นคนนอกคนแรกที่ได้ก้าวขึ้นมานำองค์กรที่มีอายุกว่า 117 ปีแห่งนี้ กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักจากกลุ่มนักลงทุนและพนักงานเกษียณอายุ เพื่อให้พลิกฟื้นราคาหุ้นที่ร่วงลงไปกว่า 25% นับตั้งแต่ต้นปี 2023 ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดจากคู่แข่งอย่าง FedEx และธุรกิจโลจิสติกส์ของ Amazon
ผลจากการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้ UPS เปิดเผยว่าสามารถประหยัดต้นทุนไปได้แล้วประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 7.1 พันล้านบาท) ในปีนี้ โดยเป็นผลมาจากการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้มากขึ้น, การปิดอาคารและศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ รวมถึงการลดการจ้างพนักงานตามฤดูกาลสำหรับช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึง
ไบรอัน ไดกส์ (Brian Dykes) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าวว่าบริษัทจะใช้ “เครื่องบินเช่าน้อยลง, ยานพาหนะเช่าน้อยลง และพนักงานตามฤดูกาลน้อยลง” ซึ่งจะช่วยให้สามารถบริหารเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจนถึงขณะนี้ UPS ได้ปิดอาคารไปแล้วถึง 93 แห่ง และคาดว่าจะมีการปิดเพิ่มเติมอีกก่อนสิ้นปีนี้
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการ ‘ปรับโครงสร้าง’ ครั้งนี้ คือการลดการพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่อย่าง Amazon ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกันมาเกือบ 30 ปี โดย UPS ได้ตัดสินใจที่จะลดปริมาณพัสดุจาก Amazon ลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรต่ำ โดยในไตรมาสที่สาม ปริมาณพัสดุจาก Amazon ได้ลดลงไปแล้วถึง 21.2%
แม้ว่าการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่จะสร้างความตึงเครียดกับสหภาพแรงงาน Teamsters ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงาน UPS กว่า 340,000 คน แต่โทเมก็ยืนยันว่าบริษัทยังคง “ปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างงาน” ทุกประการ
ถึงแม้ว่ากำไรและรายได้ในไตรมาสที่สามจะลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีรายได้รวม 2.14 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.92 แสนล้านบาท) และมีกำไร 1.31 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.23 หมื่นล้านบาท) แต่ตัวเลขดังกล่าวก็ยังคงสูงกว่าที่ Wall Street คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทดีดตัวขึ้นเกือบ 9% ในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร
หมายเหตุ : ใช้อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 32.30 บาท ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568
ภาพ : Ceri Breeze / Shutterstock
อ้างอิง:
- https://www.wsj.com/business/logistics/united-parcel-service-ups-q3-earnings-report-2025-stock-jobs-layoffs-1d954f75
- https://apnews.com/article/ups-amazon-layoffs-turnaround-85afc1c459883f41a2283c8394ce1eaf
- https://nypost.com/2025/10/28/business/ups-axes-48000-workers-in-sweeping-cost-cut-push-sparking-stock-surge/


