×

กมธ.คมนาคม ชี้ กทม.ขึ้นค่าโดยสารสายสีเขียว 104 บาท ซ้ำเติมวิกฤตประชาชน เตรียมเรียกแจง คัดค้านถึงที่สุด

โดย THE STANDARD TEAM
18.01.2021
  • LOADING...
รถไฟฟ้าสายสีเขียว

วานนี้ (17 มกราคม) โสภณ ซารัมย์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้ออกประกาศเพื่อปรับอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีเขียวตลอดสายอยู่ที่ 104 บาท เป็นการซ้ำเติมประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด-19

 

กมธ.คมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้แสดงจุดยืน ไม่เห็นด้วยกับการคิดอัตราค่าโดยสารสายสีเขียวตลอดสาย 65 บาท พร้อมขอให้ กทม.ชี้แจงที่มาของการคำนวณราคาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว จนบัดนี้ยังไม่ได้รับข้อมูล แต่กลับข่มขู่ประชาชน ว่าจะขึ้นราคา 104 บาทในเดือนหน้า 

 

โดยที่ผ่านมา กมธ.คมนาคม ได้มีข้อเสนอแนะในเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจนว่า การคิดอัตราค่าโดยสารนั้นต้องเปิดเผยที่มาการคิดราคาอย่างโปร่งใส และเชื่อว่าสามารถคิดราคาได้ถูกกว่า 65 บาทตลอดสาย และควรกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกที่สุดสำหรับประชาชนที่ใช้บริการ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยมาใช้บริการ 

 

โดยข้อเสนอแนะดังกล่าวคือ

 

  1. การต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยคิดราคาค่าโดยสารสูงสุด 65 บาท กทม. ควรเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะว่ามีฐานการคิดคำนวณมาอย่างไร เนื่องจากการสอบถามข้อมูลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว กระทรวงคมนาคมเห็นว่ายังสามารถลดค่าโดยสารลงได้ต่ำกว่า 65 บาท กมธ.จึงเห็นว่า ค่าโดยสารที่สามารถลดลงได้อีก เนื่องจากปริมาณการเดินทางในอนาคตจะมีมากขึ้น ต้นทุนต่อการเดินรถควรจะถูกลงอีก จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะประชาชนผู้มีรายได้น้อยจะสามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนได้มากขึ้น

 

  1. ประชาชนควรจะได้รับประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ ในการต่อสัญญาสัมปทานครั้งนี้ เช่น การลดค่าแรกเข้าระบบที่ไม่ควรจะมีการคิดซ้ำซ้อน และไม่มีเงื่อนไขซึ่งจะเป็นภาระต่อผู้โดยสาร

 

  1. หากยังไม่มีการต่อสัญญาสัมปทานซึ่งกำลังจะหมดลงในปี 2572 หรือในอีก 9 ปี ข้างหน้า และสินทรัพย์ทั้งหมดจะตกกลับมาเป็นของรัฐ คือ กทม. จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีเขียมีกำไร หลังจากหักค่าจ้างเดินรถแล้ว จะมีกำไรไม่น้อยกว่าปีละ 5 พันล้านบาทต่อปี และเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต กำไรดังกล่าว สามารถนำมาบริหารจัดการ ช่วยลดอุดหนุนเส้นทางรถไฟฟ้าอื่นๆ ที่อยู่นอกเมือง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนผู้มีรายได้น้อยกว่าได้ใช้รถไฟฟ้าในอัตราที่ถูกกว่าคนในใจกลางเมือง

 

การที่อ้างว่า กทม. ไม่มีความสามารถทางการเงินในการชำระหนี้และบริหารจัดการ ไม่เป็นความจริง เนี่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นทางมีศักยภาพทางธุรกิจที่ชัดเจน สามารถระดมเงินเพื่อบริหารจัดการได้จากแหล่งเงินต่างๆ เช่น ธนาคาร แหล่งทุน เนื่องจากมีรายได้มหาศาลที่ชัดเจน

 

  1. การดำเนินการของคณะกรรมการฯ ตามคำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 3/2562 ควรเปิดเผยรายงานการประชุมต่อสาธารณะ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนโดยทั่วไปได้

 

  1. การต่อสัญญาสัมปทานดังกล่าวยังดำเนินการไม่ครบถ้วน เช่น พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2562 และการตรวจสอบจากองค์กรอิสระต่างๆ ยังไม่แล้วเสร็จ

 

โสภณกล่าวว่า หาก กทม. ยังคงยืนยันการดำเนินการเรื่องรถไฟสายสีเขียวในยามวิกฤตความเดือดร้อนของประชาชน ถือว่าเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ของบ้านเมือง และยังไม่ฟังเสียงประชาชนและข้อทักท้วงจากส่วนราชการ และข้อแนะนำจากภาคประชาชน

 

“ทางกรรมาธิการจะเชิญผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ เพื่อคัดค้านการขึ้นราคาอย่างไม่เป็นธรรม และแจ้งเรื่องการคัดค้านดังกล่าวไปยังรัฐบาล เพื่อสั่งให้ยุติวิกฤตความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็วที่สุด” โสภณกล่าวในที่สุด

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising