วานนี้ (14 พฤษภาคม) กุลเชษฐ์ วัฒนผล พี่ชายของ กุลทรัพย์ วัฒนพล หรือ ‘อัพ VGB’ อดีตผู้บุกเบิกวงการอีสปอร์ตของไทยที่เป็นผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 รายที่ 137 เพราะประสานหาที่ตรวจไม่ได้และได้รับการรักษาช้า รับมอบอำนาจจากมารดา ได้เข้ายื่นฟ้องศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้พิจารณาสั่งให้ผู้ถูกฟ้องทั้งหมดร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 4,530,000 บาท จากกรณีละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรเป็นเหตุให้นายกุลทรัพย์ต้องเสียชีวิต
กุลเชษฐ์ระบุว่า การเสียชีวิตของกุลทรัพย์มาจากการไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทำให้โควิด-19 ทำลายปอดจนไม่สามารถรักษาได้ และเสียชีวิตในวันที่ 23 เมษายน 2564 ซึ่งจากการปฏิบัติหน้าที่ของ ศบค. ที่ประกาศแจ้งว่ามีศูนย์ช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินตามหมายเลขสายด่วนได้แก่ 1330, 1422, 1668 ,1669 ,1323 ซึ่งเป็นสายด่วนของกรมควบคุมโรค และสายด่วนด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งประชาชนสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ แต่ปรากฏว่าขณะที่กุลทรัพย์มีลักษณะอาการตามที่ ศบค. เคยประกาศให้เป็นวิธีสังเกตตนเองว่าติดเชื้อแล้วหรือยัง และได้พยายามติดต่อขอความช่วยเหลือตามหมายเลขสายด่วนดังกล่าว ซึ่งมีทั้งติดต่อไม่ได้และติดต่อได้แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
อีกทั้งการที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดละเลยปล่อยให้มีการเปิดสถานบริการ สถานบันเทิงจนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในคลัสเตอร์ทองหล่อเดือนมีนาคม แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดกลับไม่ได้มีการประกาศห้ามเดินทาง หรือออกมาตรการป้องกันการระบาดจากสถานบันเทิงสู่สังคม โดยยังคงให้ประชาชนเดินทางกลับไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จนการแพร่ระบาดขยายสู่ประชาชนเป็นวงกว้าง ทำให้มีผู้ติดเชื้อถึงวันละ 2,000 คน การกระทำดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องทั้งหมดจึงเข้าข่ายจงใจประมาทเลินเล่อปฏิบัติหน้าที่โดยปล่อยปละ หรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควร
“ที่กุลทรัพย์เสียชีวิตครั้งนี้เนื่องจากไม่ได้รับการช่วยเหลือให้เข้ารับการรักษาพยาบาลในเวลาที่เหมาะสมทันท่วงที ถ้าได้รับการรักษาตั้งแต่เริ่มติดเชื้อ เชื้อยังไม่ทำลายปอดก็ย่อมไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกุลทรัพย์ ทางครอบครัวต้องจัดการงานศพอันเป็นค่าปลงศพ 30,000 บาท มารดาซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดี ต้องขาดไร้ซึ่งการส่งเสียอุปการะเลี้ยงดูจากกุลทรัพย์ เดือนละ 15,000 บาท ซึ่งคิดจากช่วงอายุที่กุลทรัพย์เสียชีวิตคือ 35 ปี จนถึงกุลทรัพย์อายุ 60 ปี รวมระยะเวลา 25 ปี รวมเป็นเงิน 4,530,000 บาท ที่ขอให้ศาลสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีต้องร่วมกันรับผิดในทางละเมิดต่อครอบครัว” กุลเชษฐ์ระบุ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์