×

นักเศรษฐศาสตร์ UOB คาด กนง. คงดอกเบี้ยในการประชุม 29 พ.ย. นี้ ก่อนหั่นครั้งแรกช่วงกลางปีหน้า

28.11.2023
  • LOADING...
ดอกเบี้ยนโยบาย

นักเศรษฐศาสตร์ UOB คาด กนง. คงดอกเบี้ยในการประชุม 29 พฤศจิกายนนี้ไว้ที่ 2.5% ก่อนจะค่อยลดในกลางปีหน้าสู่ระดับ 2% พร้อมประเมินอัตราดอกเบี้ยดุลยภาพระยะยาวสำหรับประเทศไทยควรอยู่ระหว่าง 1-1.5% เชื่อปีหน้าธนาคารกลางทั่วโลก Data Dependent

 

Enrico Tanuwidjaja นักเศรษฐศาสตร์ Global Economics and Market Research, UOB Group กล่าวกับ THE STANDRD WEALTH ในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2023 โดยประเมินว่าแนวทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกในปีหน้าจะเป็นลักษณะ Data Dependent หรือตัดสินใจอิงตามข้อมูลเป็นหลัก โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Growth) ดังนั้นสำหรับสหรัฐอเมริกาและยุโรปหากความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น อาจเป็นการบังคับให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต้องปรับลดดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม หากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อไป Fed และ ECB อาจต้อง Higher for Longer

 

สำหรับในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งสุดท้ายของปีนี้ ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ Enrico Tanuwidjaja มองว่า Fed มีแนวโน้มจะคงดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลง

 

สำหรับในปีหน้า ธนาคารกลางสหรัฐฯ และยุโรป และอาจรวมถึงบางประเทศในเอเชีย เช่น อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ อาจเริ่มหั่นอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่เศรษฐกิจชะลอตัวหนักกว่าคาด อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ UOB มองว่าการหั่นดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเกิดในปีหน้าเป็นกระบวนการปรับสู่ปกติ (Normalization) มากกว่าการหั่นดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่า (Massive Cut)

 

Enrico Tanuwidjaja ประเมินอีกว่า อัตราดอกเบี้ยดุลยภาพ (Equilibrium Interest Rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อและการเติบโตตามศักยภาพของสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 2.5% (บนสมมติฐานที่ว่าอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ควรจะอยู่ที่ 2% และมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 2-3%)

 

“ดังนั้น Fed จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยอย่างแน่นอน ประมาณ 300 Basis Points จากระดับปัจจุบันที่ 5.5% แต่อยู่ที่ว่า Fed จะหั่นดอกเบี้ยตอนไหนเท่านั้น” Enrico Tanuwidjaja กล่าวอีกว่า “แต่ในมุมมองของ UOB การหั่นดอกเบี้ยครั้งแรกอาจเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปีหน้า เพราะถึงตอนนั้นความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวจะเกิดขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และอัตราเงินเฟ้อก็น่าจะลดลง เพราะราคาพลังงานและราคาอาหารจะกลับมาเป็นปกติ”

 

นักเศรษฐศาสตร์ UOB คาด กนง. คงดอกเบี้ยในการประชุม 29 พฤศจิกายนนี้

 

Enrico Tanuwidjaja คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% ในการประชุมวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ ก่อนจะปรับลดลงเหลือ 2% ภายในช่วงกลางปี 2567

 

THE STANDARD WEALTH ถามต่อว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะมีผลต่อการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. หรือไม่ Enrico Tanuwidjaja มองว่ามีผล โดยหากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตผ่าน กนง. อาจไม่จำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปจนถึงใกล้สิ้นปี 2568

 

“โดยในช่วงแรก โครงการดิจิทัลวอลเล็ตอาจเพิ่ม GDP ไทยได้ถึง 1% โดยในปีหน้าไทยอาจเห็นการเติบโตที่เกือบ 4% แต่หลังจากนั้นอาจจะชะลอตัวลง ธปท. จึงอาจไม่จำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงใกล้สิ้นปี 2568

 

“ผมมองว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายที่มีผลครั้งเดียว (One Time Policy) กล่าวคือ การเติบโตทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นชั่วคราว แต่ก็จะลดลงหลังโครงการจบ แต่ผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยจะยาวนานกว่า”

 

สำหรับอัตราดอกเบี้ยดุลยภาพระยะยาวสำหรับประเทศไทย Enrico Tanuwidjaja มองว่าควรอยู่ระหว่าง 1-1.5% เนื่องจากศักยภาพในการเติบโตของเศรษฐกิจไทยควรอยู่ระหว่าง 3-4% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ต่ำกว่า 2%

 

“อัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1-1.5% สำหรับประเทศไทย ผมคิดว่าเป็นระดับที่ดีมาก เพื่อรองรับการเติบโตและยังรักษาอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงที่เป็นบวกไว้ด้วย” Enrico Tanuwidjaja กล่าว

 

สำหรับประมาณการเศรษฐกิจไทย UOB ประเมินว่า ปี 2566 GDP ไทยอาจโตเพียง 2.3% แต่ปีหน้าอาจโตถึง 3.6% หากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตผ่าน แต่หากไม่ผ่านอาจเหลือระดับ 2% กว่าๆ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising