×

รวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงพรรค-พล.อ. ประยุทธ์ ไม่เกี่ยวข้องกับ ส.ว. เจ้าของที่ทำการ หลังโรมเปิดข้อมูลเอี่ยวทุนสีเทา-ค้ายาเสพติด

โดย THE STANDARD TEAM
19.02.2023
  • LOADING...

วันนี้ (19 กุมภาพันธ์) พรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงกรณีที่มีการอภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในลักษณะกล่าวหาให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่า อาคารที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติเกี่ยวพันกับทุนสีเทา เนื่องจากเป็นอาคารที่เกี่ยวพันกับสมาชิกวุฒิสภาท่านหนึ่ง ซึ่งผู้อภิปรายพยายามกล่าวหาว่าสมาชิกวุฒิสภาท่านนั้นเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดและการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้น

 

พรรครวมไทยสร้างชาติขอแจ้งให้ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ ซึ่งเคยมีสื่อมวลชนบางแห่งพยายามนำเสนอข้อเท็จจริงในลักษณะดังกล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่เคยปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีการตั้งข้อกล่าวหาหรือมีการแจ้งข้อหาเช่นว่านั้นกับสมาชิกวุฒิสภาท่านนั้นตามกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายแต่อย่างใด 

 

นอกจากนั้น สมาชิกวุฒิสภาท่านนั้นก็มิได้เป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติและไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับพรรครวมไทยสร้างชาติเลย 

 

ดังนั้น การกระทำใดๆ ของสมาชิกวุฒิสภาท่านนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และมิใช่การกระทำของพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งทางตรงและทางอ้อมแต่ประการใด

 

นอกจากนั้น การใช้อาคารสถานที่ดังกล่าวเป็นที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะ พล.อ. ประยุทธ์ เพิ่งจะมาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 นี้เอง ในขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติใช้อาคารสถานที่ดังกล่าวเป็นที่ทำการพรรคมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 อีกทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ ก็มิได้มีตำแหน่งบริหารใดๆ ในพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกใช้อาคารสถานที่ใดเป็นที่ทำการพรรค 

 

การที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนำเรื่องดังกล่าวไปอภิปรายกล่าวหาผูกโยงสมาชิกวุฒิสภาท่านนั้นกับพรรครวมไทยสร้างชาติและ พล.อ. ประยุทธ์ เพียงเพื่อสร้างเรื่องราวการอภิปรายให้เป็นไปตามความคิดความเข้าใจของตนเองว่าอาคารที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติและ พล.อ. ประยุทธ์ กับสมาชิกวุฒิสภาที่ผู้อภิปรายกล่าวหานั้นมีความเกี่ยวข้องกันซึ่งไม่เป็นความจริง แต่เป็นการกระทำที่อาจทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในข้อเท็จจริงตามคำอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นได้ จึงเป็นการกระทำที่เป็นการไม่รับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ผู้ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ดีจะพึงกระทำ

 

พรรครวมไทยสร้างชาติขอเรียนว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นเพียงผู้เช่าใช้อาคารสถานที่อันเป็นที่ทำการพรรคเท่านั้น ซึ่งโดยปกติทั่วไปนั้น ผู้เช่ากับผู้ให้เช่าที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันหรือที่ไม่มีการกระทำใดที่กระทำร่วมกันจะต้องมีความรับผิดชอบหรือร่วมรับผิดในการกระทำของอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น ไม่ว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกกล่าวหาจะเป็นผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติที่เป็นเพียงผู้เช่าอาคารที่จะต้องมีความรับผิดหรือต้องตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาร่วมด้วย

 

ยิ่งกว่านั้น ในช่วงเวลาที่พรรครวมไทยสร้างชาติเช่าใช้อาคารดังกล่าวนั้นก็ไม่เคยปรากฏข่าวหรือข้อเท็จจริงใดๆ ในทางสาธารณะที่เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปตามข้อเท็จจริงที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นหยิบยกขึ้นมาใช้อภิปราย จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พรรครวมไทยสร้างชาติจะทราบล่วงหน้าหรือคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาที่เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในอาคารดังกล่าวจะถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำใดๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในเวลาต่อมาหรือในอนาคตได้

 

การที่มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพยายามผูกโยงข้อเท็จจริงในการอภิปรายให้ประชาชนเข้าใจหรือคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติและ พล.อ. ประยุทธ์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำการอันเป็นความผิดต่อกฎหมายอย่างร้ายแรงนั้น จึงเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามจริยธรรมของนักการเมืองและตามกฎหมายอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติจะพิจารณาดำเนินการตามสิทธิ์และตามกฎหมายต่อไป

 

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากที่ รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ ได้ทำการอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในช่วงดึกของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในหัวข้อ ‘เช็กบิลไทยดำ-จีนเทา’ ซึ่งต่อมา อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ทำการยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising