ทางการสหรัฐฯ ตัดสินใจระงับการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุอาคารคอนโดมิเนียมริมชายหาดขนาด 12 ชั้นพังถล่มลงมาบางส่วน ในเขตไมอามีเดด เมืองเซิร์ฟไซด์ รัฐฟลอริดา พร้อมเตรียมเริ่มต้นการรื้อถอนและทำลายโครงสร้างอาคารที่เหลือ ก่อนที่พายุโซนร้อนเอลซาจะพัดเข้าถล่มชายฝั่งในพื้นที่ช่วงต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตราย โดยคาดว่าการทำลายอาคารอาจเริ่มต้นได้ภายในวันนี้ (4 กรกฎาคม)
เดเนียลลา เลอวีน คาวา นายกเทศมนตรีเขตไมอามีเดด ซึ่งลงนามคำสั่งทำลายอาคารเมื่อวันศุกร์ (2 กรกฎาคม) เปิดเผยว่า ยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่ชัดในการทำลายอาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อม รวมถึงการขุดเจาะเสาและโครงสร้าง ที่จะทำให้สถานที่ไม่ปลอดภัยในการค้นหาผู้สูญหาย
“เราจะดำเนินการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราหวังว่าจะสามารถทำลายอาคารได้ก่อนที่พายุจะมา” เธอกล่าว พร้อมยืนยันว่าได้ทำความเข้าใจกับครอบครัวของผู้สูญหายในการดำเนินการทำลายอาคาร
ขณะที่ ชาร์ลส์ เบอร์เกตต์ นายกเทศมนตรีเมืองเซิร์ฟไซด์ แสดงความกังวลว่าพายุอาจทำให้ส่วนที่เหลืออยู่ของอาคารถล่มลงมาทับในจุดที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังพยายามค้นหาผู้สูญหาย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงในพื้นที่ระบุว่า การรื้อถอนอาคารจะดำเนินการภายใต้การควบคุมโดยใช้ระเบิด ไม่ใช้เครื่องจักรในการรื้อทำลายหรือวิธีอื่นๆ ซึ่งทีมผู้รับเหมาที่ควบคุมการทำลายอาคารได้เข้าตรวจสอบพื้นที่แล้ว ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอาคารข้างเคียงได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันศุกร์
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ (3 กรกฎาคม) ทีมกู้ภัยสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 คน ออกมาจากใต้ซากปรักหักพังของอาคาร ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอาคารถล่มครั้งนี้เพิ่มเป็น 24 คนแล้ว และยังมีผู้สูญหายอีก 121 คน
ภาพ: Photo by Tayfun Coskun / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
