สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากการใช้จ่ายจำนวนมหาศาล เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลกลางใช้จ่ายเงินมากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปีงบประมาณ ซึ่ง 2 ล้านล้านดอลลาร์ในจำนวนนี้เป็นการใช้จ่ายไปกับมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวกับไวรัสโคโรนา 2019
ตัวเลขรายจ่ายดังกล่าวสูงกว่ารายได้จากภาษีซึ่งอยู่ที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์ และส่งผลให้สหรัฐฯ มียอดขาดดุลงบประมาณในช่วง 11 เดือนแรกปีนี้มากกว่า 2 เท่าของยอดขาดดุลงบประมาณทั้งปี 2009 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ก่อนหน้านี้ โดยในช่วงเวลานั้นรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องรับมือกับผลพวงของวิกฤตซับไพรม์ปี 2008
ทั้งนี้ ตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 สหรัฐฯ มีแนวโน้มอยู่แล้วที่จะประสบภาวะขาดดุลงบประมาณมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม งบประมาณรายจ่ายที่ได้รับการอนุมัติเพื่อนำไปใช้บรรเทาผลกระทบทางการเงินอันเนื่องจากมาจากไวรัสนั้นได้ทำให้ตัวเลขดังกล่าวยิ่งพุ่งทะยานขึ้น
สำนักงบประมาณแห่งรัฐสภา (Congressional Budget Office) ได้คาดการณ์ในเดือนนี้ว่า สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะขาดดุลงบประมาณทั้งปีนี้ที่ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่า 3 เท่าของตัวเลขขาดดุลงบประมาณในปีที่แล้ว พร้อมทั้งคาดด้วยว่า หนี้สินรวมของสหรัฐฯ จะสูงกว่า 26 ล้านล้านดอลลาร์ โดยปีงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ นั้นสิ้นสุดในเดือนกันยายน
ในการประชุมรับฟังความคิดเห็นเมื่อเดือนมิถุนายน เจอโรม พาวเวลล์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) กล่าวกับสมาชิกสภาคองเกรสว่า เส้นทางการใช้จ่ายของอเมริกานั้น ‘ไม่ยั่งยืน’ แต่ขณะเดียวกันก็กล่าวด้วยว่า ไม่ควรให้ความสำคัญกับการลดยอดขาดดุลงบประมาณเป็นลำดับแรก เมื่อพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจในตอนนี้
เศรษฐกิจสหรัฐฯ หดตัวมากกว่า 30% ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนเมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการหดตัวหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ ข้อมูลยังบ่งชี้ด้วยว่า การเลิกจ้างพนักงานและการปิดกิจการจะยังคงดำเนินต่อไป
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า ประชาชนประมาณ 30 ล้านคน หรือราว 20% ของแรงงานชาวอเมริกัน ยังคงรับสวัสดิการว่างงานในบางรูปแบบ ถึงแม้จะเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนยังคงกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มเติม โดยในสัปดาห์นี้รีพับลิกันได้ผลักดันข้อเสนอเยียวยาเพิ่มเติมวงเงิน 3.00 แสนล้านดอลลาร์ แต่แผนดังกล่าวไม่ได้ไปต่อ เนื่องจากเดโมแครตเห็นว่าวงเงินดังกล่าวน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับจำนวน 3 ล้านล้านดอลลาร์ที่ฝ่ายเดโมแครตเสนอ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: