Fast Retailing บริษัทแม่ของ Uniqlo เชนฟาสต์แฟชั่นชื่อดังจากแดนอาทิตย์อุทัย ได้ตัดสินใจปรับลดประมาณการณ์กำไรลงถึง 44% สำหรับปีงบประมาณ 2020 (กันยายน 2019 ถึง สิงหาคม 2020) ภายหลังวิกฤตโควิด-19 สะเทือนยอดขายในจีน รวมไปถึงในสหรัฐอเมริกาและยุโรป
การระบาดครั้งใหญ่ที่เริ่มตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากระทบกับซัพพลายเชนของ Uniqlo ซึ่งหยุดชะงักทั่วประเทศจีน และทำให้ต้องปิดร้านไปทั้งหมด 750 สาขา คิดเป็นครึ่งหนึ่งในแผ่นดินใหญ่อันเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของยักษ์ฟาสต์แฟชั่น ซึ่งมีการเติบโตสูงมากในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เนื่องจากได้ผสมผสานสินค้าที่สวมใส่ได้ง่ายและราคาไม่แพง จึงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ชนชั้นกลางที่กำลังเติบโต
“นี่เป็นวิกฤตที่ใหญ่ที่สุดสำหรับมนุษยชาตินับตั้งแต่สิ้นสุดสงคราม (ครั้งที่ 2)” ทาดาชิ ยานาอิ ซีอีโอของ Fast Retailing กล่าวในงานแถลงข่าว “ฉันไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด”
แม้ร้านค้าบางส่วนในจีนจะกลับมาเปิดอีกครั้งและธุรกิจเริ่มฟื้นตัว แต่เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ได้ขยายไปยังพื้นที่ส่วนอื่นๆ ของโลกมากขึ้น ล่าสุดจำต้องปิด Uniqlo ในบ้านเกิดถึง 170 สาขา หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ก่อนหน้านี้ได้ปิดสาขาทั้งหมดที่มีอยู่ 50 แห่งในแดนลุงแซม และบางส่วนในยุโรปไปแล้ว
ดังนั้น Fast Retailing จึงได้คาดการณ์ว่าในปีงบประมาณ 2020 จะมีกำไรจากการดำเนินงาน 1.45 แสนล้านเยน หรือ 4.37 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลง 44% จากที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไรจากการดำเนินงาน 2.45 แสนล้านเยน หรือ 7.87 หมื่นล้านบาท
สำหรับผลงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2020 สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ มีผลกำไรจากการดำเนินงานทั้งสิ้น 1.367 แสนล้านเยน หรือ 4.12 หมื่นล้านบาท ลดลง 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม ซีอีโอของ Fast Retailing ยืนยันว่า บริษัทมีเงินทุนเพียงพอสำหรับการดำเนินงาน และไม่เคยละทิ้งแผนการที่จะเปิดสาขาเพิ่ม โดยบริษัทซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกแฟชั่นรายใหญ่ที่สุดของเอเชียได้กล่าวว่า ต้องการเป็นอันดับ 1 ของโลกโดยการเอาชนะคู่แข่ง Inditex ยักษ์ใหญ่จากสเปนที่เป็นเจ้าของ Zara รวมถึงต้องการแซง H&M อีกด้วย
แม่ทัพของ Fast Retailing เชื่อว่า Uniqlo ให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าที่เรียบง่ายแต่มีคุณภาพสูง แทนที่จะเป็นเสื้อผ้าที่เหมาะจะสวมใส่แค่บนรันเวย์ จึงได้เปรียบในเวลานี้ เนื่องจาก “การระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนต้องการซื้อเสื้อผ้าที่สวมได้ในชีวิตจริงมากกว่า” ทาดาชิ ยานาอิ กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: