Unilever บริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ โดยมีเป้าหมายลดตำแหน่งงานในสำนักงานทั่วทวีปยุโรปลงประมาณ 1 ใน 3 ภายในสิ้นปี 2025 นี่เป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญภายใต้การนำของ Hein Schumacher ซีอีโอคนใหม่ ที่กำลังเร่งเครื่องผลักดันการเติบโตของบริษัทท่ามกลางแรงกดดันจากผู้ถือหุ้น
แผนการลดพนักงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ ‘โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ’ ที่ Unilever ประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งรวมถึงการลดตำแหน่งงานทั่วโลกมากถึง 7,500 ตำแหน่ง โดยในยุโรปคาดว่าจะมีการลดตำแหน่งงานประมาณ 3,000-3,200 ตำแหน่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตำแหน่งในสำนักงาน ไม่รวมถึงพนักงานในโรงงาน
การตัดสินใจครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้กับพนักงานจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งแนะนำให้พนักงานควรทุ่มเทให้กับงานมากกว่าที่จะจมอยู่กับความกังวลและความไม่แน่นอน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการไม่เข้าใจความรู้สึกของพนักงาน
การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Schumacher ในการพลิกฟื้น Unilever ที่กำลังเผชิญกับผลประกอบการที่ไม่น่าประทับใจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นอกจากการลดพนักงานแล้ว Unilever ยังประกาศแยกธุรกิจไอศกรีมออกเป็นอีกบริษัท เพื่อเร่งการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการลดพนักงานจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของพนักงาน และภาพลักษณ์ของ Unilever ในฐานะบริษัทที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าและวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อแผนการฟื้นฟูธุรกิจในระยะยาว
การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของ Unilever ไม่ใช่เรื่องใหม่ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งหลายบริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างครั้งนี้ของ Unilever อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว
แม้ว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อพนักงานและภาพลักษณ์ของบริษัทในระยะสั้น แต่หาก Unilever สามารถดำเนินการตามแผนได้สำเร็จ ก็อาจเป็นก้าวสำคัญในการพลิกฟื้นธุรกิจ และกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ภาพ: JJFarq / Shutterstock
อ้างอิง: