×

รายงาน UNICEF ชี้ เด็กในไทยเผชิญ ‘ความเสี่ยงสูง’ จากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

29.03.2023
  • LOADING...
UNICEF

รายงานการศึกษาล่าสุดของ UNICEF ซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย และได้รับการเผยแพร่เมื่อวานนี้ (28 มีนาคม) ระบุว่า เด็กในประเทศไทยกำลังเผชิญ ‘ความเสี่ยงสูง’ ต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะเด็กในจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี นครราชสีมา ศรีสะเกษ นครศรีธรรมราช และนราธิวาส คือกลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงสูงสุด

 

งานศึกษาว่าด้วย การประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมต่อเด็กในประเทศไทย เป็นรายงานฉบับแรกในประเทศไทยที่ศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อเด็กเป็นการเฉพาะ โดยจำแนกตามจังหวัด รายได้ ความพิการ และอายุ โดยรายงานดังกล่าวยังนำเสนอดัชนีความเสี่ยงต่อสภาพภูมิอากาศของเด็ก (Child-Sensitive Climate Risk Index) ซึ่งสะท้อนปัจจัยต่างๆ ในประเทศไทย ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ ได้แก่ อากาศร้อนจัด ความหนาวเย็น น้ำท่วม ภัยแล้ง รวมทั้งการมีสถานบริการสุขภาพและบริการสังคมในแต่ละจังหวัด เพื่อสนับสนุนภาครัฐบาล ภาคประชาสังคม และภาคธุรกิจ ในการจัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการ เพื่อบรรเทาปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและชุมชน

 

รายงานดังกล่าวระบุว่า ภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลกระทบต่อเด็กในประเทศไทยคือ ภัยน้ำท่วม ภัยแล้ง และอากาศร้อนจัด ซึ่งอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ การแพร่กระจายของเชื้อโรค และความไม่มั่นคงทางอาหาร ปัญหาดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพ พัฒนาการ และความเป็นอยู่ของเด็ก ซึ่งมีความเปราะบางต่อภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากพวกเขามีระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาทที่อ่อนแอกว่า อีกทั้งยังต้องพึ่งพิงผู้ใหญ่ในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นอยู่โดยรวม

 

คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟประจำประเทศไทย (UNICEF Thailand) กล่าวในงานแถลงผลการศึกษาชิ้นนี้ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยยูนิเซฟและกรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า “ทุกวันนี้เราเห็นผลกระทบของน้ำท่วม ภัยแล้ง ฝุ่นมลพิษ และสภาพอากาศร้อนจัดในประเทศไทยอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาวะทั้งทางร่างกายและจิตใจของเด็ก และกระทบต่อพัฒนาการของเด็กในระยะยาว ทำให้เด็กๆ เสี่ยงที่จะไม่สบาย ขาดเรียน หรือเข้าไม่ถึงบริการต่างๆ ที่จำเป็น ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ การขาดสารอาหาร ความเครียด และความตื่นตระหนก หรือแม้กระทั่งการเสียชีวิตได้ เราอาจพูดได้ว่าภาวะเหล่านี้กำลังพรากอนาคตของเด็กๆ ไป อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องนี้จะเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสิทธิเด็ก แต่กลับยังไม่ได้รับความสนใจและการแก้ไขเท่าที่ควร”

 

รายงานดังกล่าวยังระบุอีกว่า เด็กแต่ละกลุ่มกำลังเผชิญผลกระทบจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน โดยเด็กจากครอบครัวยากจน เด็กในชนบท เด็กพิการ และเด็กโยกย้ายถิ่นฐาน คือกลุ่มที่มีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

 

รายงานของ UNICEF เมื่อปี 2021 จัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 50 จาก 163 ประเทศที่เด็กมีความเสี่ยงสูงสุดต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ รายงาน The Coldest Year of the Rest of their Lives: Protecting Children from the Escalating Impacts of Heatwaves ของ UNICEF ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022 ที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า ในปี 2020 เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ในประเทศไทย จำนวน 10.3 ล้านคน หรือคิดเป็นกว่า 75% ของเด็กทั่วประเทศ ต้องเผชิญคลื่นความร้อนที่เกิดบ่อยครั้งขึ้น และหากยังไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง เด็กเกือบทุกคนในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากคลื่นความร้อนสูงบ่อยครั้งขึ้นและยาวนานขึ้นภายในปี 2050

 

รายงานฉบับนี้ยังได้เสนอแนะแนวทางการดำเนินการเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเด็กในประเทศไทย ดังนี้

 

  1. นโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต้องให้ความสำคัญกับเด็ก โดยต้องคำนึงถึงความต้องการของเด็กและเยาวชนเป็นสำคัญ และต้องมีมาตรการที่จะปกป้องพวกเขาจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อม

 

  1. ส่งเสริมความตระหนักรู้ ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการดูแลสิ่งแวดล้อมให้แก่เด็ก ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา เพื่อให้พวกเขาเข้าใจว่ากำลังได้รับผลกระทบอย่างไร และจะมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาได้อย่างไร

 

  1. เสริมสร้างความเข้มแข็งและความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในชุมชนที่มีความเสี่ยงสูง ผ่านการเสริมสร้างความรู้และทักษะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนการเตรียมความพร้อม การป้องกัน และการตอบสนองต่อภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการพัฒนาระบบเตือนภัยและเฝ้าระวังที่มีประสิทธิผลและทันต่อเหตุการณ์ ที่ทุกคนรวมทั้งเด็กในกลุ่มเปราะบางที่สุดสามารถเข้าถึงและปฏิบัติตามได้ง่าย

 

  1. สร้างพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับวิธีการป้องกันและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนการดูแลสิ่งแวดล้อมในชุมชนของตัวเอง

 

ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 27 หรือ COP27 ที่จัดขึ้นที่ประเทศอียิปต์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เด็กและเยาวชนมีบทบาทสำคัญมากขึ้น โดยเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มี Pavilion และเวทีถกเถียงในประเด็นนี้เป็นของตัวเอง พวกเขาได้เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายและภาคธุรกิจเพิ่มความมุ่งมั่นและลงมือปฏิบัติอย่างแท้จริงเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

 

ขณะที่ในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้เปิดตัว U-Report ซึ่งเป็นแชตบอตในแอปพลิเคชัน LINE ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แบ่งปันแนวคิดและแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา จากการสำรวจความคิดเห็นเยาวชนจำนวน 517 คน เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พบว่า เกินครึ่งหนึ่งของเยาวชนที่ตอบแบบสอบถามบอกว่าพวกเขามีความรู้แค่ระดับพื้นฐานหรือแทบไม่มีความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเลย และ 63% บอกว่าพวกเขาไม่รู้ว่าจะต้องรับมือภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศอย่างไร

 

ในปี 2023 นี้ คณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติจะให้ข้อคิดเห็นทั่วไป (General Comment No.26) ด้านสิทธิเด็กและสิ่งแวดล้อม โดยเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอ้างอิงจากเสียงของเด็กและเยาวชนในชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ข้อคิดเห็นทั่วไปนี้มุ่งเน้นให้รัฐบาลทั่วโลกมีมาตรฐานสากลในการปกป้องสิทธิเด็กจากผลกระทบของวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม

 

คิมกล่าวเสริมว่า “ทุกคนและทุกภาคส่วนของสังคมล้วนมีบทบาทในการสนับสนุนการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่ออนาคตของเด็กในวันนี้และเพื่อโลกที่อยู่อาศัยได้ในวันพรุ่งนี้ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยการเผยแพร่ข้อมูลและข้อเท็จจริง และที่สำคัญที่สุดคือการให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับเด็กทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

 

ดาวน์โหลดการประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมต่อเด็กในประเทศไทย ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ

 

ภาพ: ยูนิเซฟ ประเทศไทย

อ้างอิง: ยูนิเซฟ ประเทศไทย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X