×

ยูนิเซฟเปิดตัวแคมเปญ #CountMeIn รับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่มีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน

โดย THE STANDARD TEAM
09.09.2024
  • LOADING...

วันนี้ (9 กันยายน) ยูนิเซฟ ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญ #CountMeIn ‘โลกรวน เด็กเดือดร้อน รับฟังเสียงเด็ก’ เพื่อสร้างความตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อเด็กและเยาวชน โดยธีมของแคมเปญ ‘เสียงของเด็ก เล่าจากเด็ก ลงมือทำโดยเด็ก’ เน้นย้ำถึงความสำคัญในการรับฟังเสียงของเด็กและเยาวชนเมื่อโลกเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

 

แคมเปญ #CountMeIn ได้จัดทำชุดเรื่องราวภาพถ่ายที่สะท้อนประสบการณ์ของเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทยล่าสุด โดยเผยให้เห็นถึงความท้าทายที่เด็กๆ ต้องเผชิญในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป 

 

นอกจากนี้ แคมเปญยังเปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนบอกเล่าเรื่องราวชีวิตจริงของพวกเขาผ่านสิ่งสำคัญในชีวิตที่หายไปจากผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เช่น เยาวชนในจังหวัดเชียงใหม่ที่ต้องสูญเสียแม่จากโรคมะเร็งปอด ซึ่งเป็นผลมาจากมลพิษทางอากาศ PM2.5 ที่เลวร้ายลง หรือเด็กในชุมชนขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ ที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียบ้านถึง 3 ครั้งจากพายุที่รุนแรงขึ้น ขณะเดียวกันเยาวชนที่สนใจในการถ่ายภาพสัตว์ป่าได้สังเกตเห็นการสูญหายและลดลงของชนิดพันธุ์สัตว์ป่า ในขณะที่เด็กชายจากจังหวัดยะลาต้องสูญเสียอุปกรณ์การเรียนและชุดนักเรียนที่ถูกน้ำท่วมพัดหายไปเมื่อปีที่แล้ว 

 

อลิสา ผลไธสง วัย 19 ปี นักกิจกรรมในชุมชนขุนสมุทรจีน ซึ่งย้ายบ้านมาแล้ว 3 ครั้งจากพายุ กล่าวว่า “สภาพอากาศในปัจจุบันดูเหมือนจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันรู้สึกเหมือนครอบครัวของเราต้องทำงานหาเงินเพื่อเตรียมพร้อมที่จะสร้างบ้านใหม่ไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร” 

 

อลิสาเติบโตในชุมชนชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับพ่อแม่ของเธอ เธอได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและสุดขั้ว การกัดเซาะในชุมชนขุนสมุทรจีนได้กลืนที่ดินไปถึงหนึ่งกิโลเมตร และทำให้หลายครอบครัวไม่สามารถอยู่อาศัยได้เนื่องจากน้ำท่วมบ่อยครั้งและรุนแรง 

 

คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแก้ปัญหา โดยกล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อชีวิตเด็กในทุกด้าน แต่เสียงของพวกเขากลับเป็นสิ่งที่ได้ยินน้อยที่สุด แคมเปญ #CountMeIn ไม่เพียงแค่สร้างความตระหนักถึงผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่มีต่อเด็กๆ เท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นที่จะทำให้มุมมองของเด็กๆ ถูกรับฟังและเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ เราต้องไม่ลืมว่าอนาคตที่เรากำลังสร้างนั้นเป็นของพวกเขา และเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะทำให้เด็กและเยาวชนเข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศด้วยเช่นกัน”

 

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยูนิเซฟร่วมกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมและภาคีเครือข่าย เปิดตัว ‘คู่มือกิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ’ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เข้าใจง่าย และมีกิจกรรมสำหรับครูและนักเรียนในการเรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คู่มือนี้จะแจกจ่ายไปยังโรงเรียนทั่วประเทศไทย เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพคืออะไร ส่งผลกระทบต่อโลกอย่างไร และพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยปกป้องสิ่งแวดล้อม

 

แคมเปญ #CountMeIn ยังมีเซเลบริตี้และอินฟลูเอ็นเซอร์มากมายมาร่วมกิจกรรม เช่น พอลล่า เทเลอร์ Friend of UNICEF ได้ทำวิดีโอสั้นพูดคุยกับลูกๆ ของเธอถึงความสำคัญของอากาศสะอาดและท้องฟ้าสดใส ในขณะที่อินฟลูเอ็นเซอร์ด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ใบตอง-จรีรัตน์ เพชรโสม และ ก้องกรีนกรีน ก็ลงพื้นที่กับยูนิเซฟเพื่อรับฟังเสียงของเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศในจังหวัดขอนแก่นและสมุทรปราการ

 

ในเดือนกันยายนนี้ แคมเปญ #CountMeIn จะจัดทำโพลเพื่อสำรวจความคิดเห็น ความต้องการ และคำแนะนำของเด็กและเยาวชนทั่วประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และจะจัดประชุมหารือกับเยาวชนซึ่งนำโดยคณะกรรมการที่ปรึกษาเยาวชนของยูนิเซฟ เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะของเยาวชนเพื่อนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก่อนการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 29 หรือ COP29 จะจัดขึ้นประเทศที่อาเซอร์ไบจานในเดือนพฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ ยูนิเซฟยังสนับสนุนให้ตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมการประชุม COP29 เพื่อให้เด็กๆ ได้มีบทบาทสำคัญในการพูดคุยเกี่ยวกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และให้ผู้ใหญ่หันมารับฟังและรวมเด็กๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ปัญหานี้

 

ด้าน สิปโปทัย เกตุจินดา วัย 23 ปี หนึ่งในตัวแทนเยาวชนไทยที่จะเดินทางไปร่วมประชุม COP29 กล่าวว่า “เราหวังว่าแคมเปญนี้จะช่วยส่งเสริมความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบระยะสั้นและระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อเด็กและเยาวชน 

 

“แม้ว่าเด็กและเยาวชนจะเป็นผู้ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่ารุ่นผู้ใหญ่ แต่พวกเขาจำเป็นต้องมีส่วนร่วมและได้รับการสนับสนุนในการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศด้วย เพราะพวกเขามีทั้งพลังกาย พลังใจ และสามารถมองเห็นวิธีแก้ไขปัญหาเก่าๆ ในมุมมองใหม่ๆ ได้”

 

ภาพ: ปฏิภัทร จันทร์ทอง / ยูนิเซฟ / 2024

อ้างอิง: 

  • ยูนิเซฟ ประเทศไทย
FYI
  • ทุกปีมีเด็ก 40 ล้านคนทั่วโลก ต้องขาดเรียนหรือหยุดเรียนเนื่องจากภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
  • ทุกๆ 1 องศาเซลเซียสที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดเพิ่มขึ้นร้อยละ 5
  • ในปี 2021 มลพิษทางอากาศทำให้มีผู้เสียชีวิต 8.1 ล้านคนทั่วโลก และกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับ 2 ของการเสียชีวิตทั่วโลก รวมถึงในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยในแต่ละวัน มีเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีเกือบ 2,000 คนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศ เช่น PM 2.5
  • ปัจจุบันเด็กกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนถี่ขึ้น โดยจะเพิ่มเป็น 2 พันล้านคนในปี 2050
  • ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 50 จาก 163 ประเทศที่เด็กมีความเสี่ยงสูงสุดต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในปี 2020 เด็กไทย 3 ใน 4 คน หรือราว 10.3 ล้านคน เผชิญกับคลื่นความร้อนถี่ขึ้น และหากไม่มีการดำเนินการใดๆ เด็กแทบทุกคนในประเทศไทยจะต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนถี่ขึ้นและยาวนานขึ้นในปี 2050
  • จากเงินทุนทั่วโลกด้านการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีเพียงร้อยละ 2.4 เท่านั้นที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่มุ่งตอบสนองความต้องการของเด็ก
  • ยูนิเซฟทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก เรียกร้องให้รัฐบาล ภาคธุรกิจ และผู้มีอำนาจตัดสินใจ เร่งปกป้องเด็กๆ จากวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น โดยปรับบริการต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก และเตรียมความพร้อมให้เด็กๆ สามารถใช้ชีวิตในสภาวะของโลกที่เปลี่ยนไป ตลอดจนจัดสรรงบประมาณในการแก้ปัญหาด้านนี้ที่ให้ความสำคัญกับเด็ก
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising