×

UN ผ่านมติหยุดยิงกาซา หลังสหรัฐฯ ไม่วีโต้ สัญญาณ ‘รอยร้าว’ สหรัฐฯ-อิสราเอล

26.03.2024
  • LOADING...
UNSC

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซาและปล่อยตัวประกันทั้งหมด โดยถือเป็นครั้งแรกที่สามารถโหวตผ่านมติดังกล่าวได้นับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส หลังสหรัฐฯ ซึ่งเคยใช้สิทธิวีโต้คัดค้านมติในลักษณะนี้มาแล้ว 3 ครั้ง ตัดสินใจเปลี่ยนท่าทีเป็นการงดออกเสียง ทำให้มติดังกล่าวผ่านการโหวตเห็นชอบจากอีก 14 ชาติสมาชิก ท่ามกลางเสียงปรบมือด้วยความยินดี

 

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นถูกจับตามองจากหลายฝ่ายว่ามีนัยสำคัญและอาจสั่นสะเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอลที่แน่นแฟ้นมายาวนาน ขณะเดียวกัน ยังอาจกระทบต่อความพยายามเจรจาหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในกาซา ที่ยังมีชาวไทยถูกขังโดยไม่ทราบชะตากรรมอยู่อีก 8 คน

 

สัญญาณ ‘รอยร้าว’ สหรัฐฯ-อิสราเอล

 

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ผ่านสำนักงานนายกรัฐมนตรีหลังการผ่านมติของ UNSC แสดงความเสียใจต่อสหรัฐฯ ที่ไม่ยอมวีโต้มติดังกล่าว และมองว่าสหรัฐฯ ละทิ้งจุดยืนที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการทำสงครามกับฮามาสและความพยายามปล่อยตัวประกันในกาซาอีกกว่า 130 คน ซึ่งเขามองว่ามติดังกล่าวเป็นการให้ความหวังต่อกลุ่มฮามาสว่าสามารถใช้แรงกดดันจากนานาชาติเพื่อให้อิสราเอลยอมรับการหยุดยิงโดยไม่ต้องมีการปล่อยตัวประกัน

 

ขณะที่เนทันยาฮูยังประกาศจะไม่ส่งผู้แทนระดับสูงของอิสราเอลไปร่วมการประชุมกับสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อหารือเรื่องแผนบุกภาคพื้นดินในเมืองราฟาห์ของกองทัพอิสราเอล ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อความพยายามของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เนทันยาฮูพิจารณาทางเลือกอื่นแทนการบุกราฟาห์ อันเป็นด่านพรมแดนทางใต้สุดติดกับอียิปต์ และเป็นที่มั่นสุดท้ายของพลเรือนปาเลสไตน์ที่อพยพหนีการสู้รบมาอยู่ในเมืองแห่งนี้

 

ด้าน โยอัฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิสราเอล ที่อยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านคลิปวิดีโอ ก่อนการประชุมร่วมกับ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่าอิสราเอลจะไม่ยุติการทำสงครามในกาซาจนกว่าจะปล่อยตัวประกันทั้งหมด และจะเดินหน้าต่อต้านกลุ่มฮามาสต่อไปในทุกๆ ที่

 

“เราไม่มีสิทธิในทางศีลธรรมที่จะยุติสงครามในฉนวนกาซาจนกว่าเราจะส่งตัวประกันทั้งหมดกลับไปยังบ้านของพวกเขา หากเราไม่สามารถบรรลุชัยชนะที่ชัดเจนและเด็ดขาดในฉนวนกาซา ก็อาจทำให้สงครามทางตอนเหนือเข้ามาใกล้มากขึ้น”

 

อย่างไรก็ตาม เบนนี แกนตซ์ รัฐมนตรีกระทรวงสงครามของอิสราเอล ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเนทันยาฮูในการเลือกตั้งครั้งถัดไป วิจารณ์การตัดสินใจของผู้นำอิสราเอลที่ไม่ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปประชุมกับสหรัฐฯ เรื่องการบุกราฟาห์ โดยเขามองว่าการเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องไม่ละทิ้ง และแนะนำว่าเนทันยาฮูควรให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปร่วมประชุมตามกำหนดเดิมและทางอิสราเอลก็ควรจัดการประชุมในเรื่องนี้ด้วย

 

“ความสัมพันธ์พิเศษระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ถือเป็นจุดยึดด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของอิสราเอล และการเจรจาโดยตรงกับรัฐบาลสหรัฐฯ ถือเป็นสิ่งสำคัญและจะต้องไม่ละทิ้ง แม้ว่าจะมีความท้าทายและข้อพิพาทก็ตาม นายกรัฐมนตรีก็ควรเดินทางไปสหรัฐฯ ด้วยตนเองและเจรจาโดยตรงกับประธานาธิบดีไบเดนและเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ”

 

แค่วีโต้ ‘ยังไม่พอ’

 

สำหรับมติเรียกร้องหยุดยิงในกาซาดังกล่าว ซึ่งเรียกว่ามติ 2728 นั้นเป็นมติไม่ผูกพัน และคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบทันทีต่อการสู้รบในฉนวนกาซา

 

ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นใน UNSC ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงท่าทีของสหรัฐฯ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งวิกฤตในกาซา

 

“มันเป็นการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้หยุดการจัดส่งอาวุธ และนั่นคือสิ่งที่สำคัญจริงๆ” อดัม ชาปิโร (Adam Shapiro) นักวิเคราะห์การเมืองชาวแคนาดากล่าว

 

โดยนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวปาเลสไตน์ยังตั้งคำถามต่อว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ จะใช้อำนาจกดดันให้อิสราเอลยุติการคุกคามชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาหรือไม่

 

ที่ผ่านมารัฐบาลของไบเดนเรียกร้องให้อิสราเอลปกป้องพลเรือนและเปิดทางในการส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ประชาชนในฉนวนกาซา แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ ต่ออิสราเอลเพื่อเดินหน้าเพิ่มความช่วยเหลือ

 

ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวชาวปาเลสไตน์ชี้ว่าบททดสอบแท้จริงว่าสหรัฐฯ ยืนอยู่จุดไหนในสถานการณ์ตอนนี้ คือการตอบรับหรือปฏิเสธการขออาวุธจากอิสราเอล

 

โดยสื่ออิสราเอลรายงานว่าการเยือนสหรัฐฯ ของรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลตอนนี้จะมีการขออาวุธจากสหรัฐฯ เพื่อใช้ในสงครามกาซาที่กำลังดำเนินอยู่

 

ภาพ: Andrew Kelly / REUTERS

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising