×

อังกฤษประกาศคลายล็อกดาวน์ระยะที่สอง 12 เม.ย. นี้ หลังข้อมูลชี้ชัดว่าวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดการเข้ารักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต

06.04.2021
  • LOADING...
อังกฤษประกาศคลายล็อกดาวน์ระยะที่สอง 12 เม.ย. นี้ หลังข้อมูลชี้ชัดว่าวัคซีนโควิด-19 ช่วยลดการเข้ารักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เปิดแถลงข่าวเมื่อเวลา 23.00 น. ที่ผ่านมาตามเวลาในประเทศไทย เตรียมนำอังกฤษ (England) เข้าสู่การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่สองในวันที่ 12 เมษายนที่จะถึงนี้

 

ทั้งนี้ แผนการปลดล็อกดาวน์นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละแคว้นของสหราชอาณาจักร สำหรับอังกฤษนั้น ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน ร้านค้าที่ไม่จัดอยู่ในกลุ่มร้านค้าสินค้าจำเป็น, บริการที่ต้องสัมผัสใกล้ชิด เช่น ร้านตัดผม ทำผม ทำเล็บ, โรงยิม, สปา, สวนสัตว์, สวนสนุก, ห้องสมุด รวมถึงศูนย์บริการชุมชน จะสามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง ส่วนร้านอาหารและผับสามารถให้บริการลูกค้านอกตัวอาคาร (Outdoor) ได้โดยไม่มีข้อกำหนดว่าต้องเสิร์ฟอาหารควบคู่ไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ประชาชนจะต้องรับประทานและดื่มขณะอยู่ในที่นั่งเท่านั้น

 

ส่วนการรวมตัวของผู้คนนั้น สมาชิกของครัวเรือนเดียวกันสามารถพักผ่อนในวันหยุดร่วมกันในที่พักที่มีห้องน้ำและห้องครัวแยกเป็นส่วนตัวได้ งานแต่งงานและพิธีรำลึกสามารถจัดได้โดยมีผู้เข้าร่วมสูงสุด 15 คน ไม่นับรวมผู้ปฏิบัติงานในงาน ส่วนผู้อยู่อาศัยในสถานดูแลผู้ใหญ่และผู้สูงอายุสามารถเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ามาเยี่ยมในอาคารได้เพิ่มจาก 1 เป็น 2 คน นอกจากนี้ เด็กๆ สามารถร่วมกิจกรรมในอาคารได้ รวมถึงกิจกรรมกีฬา และกลุ่มผู้ปกครองกับเด็กๆ รวมกันไม่เกิน 15 คน (ไม่นับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี) สามารถรวมตัวในอาคารได้เช่นกัน

 

ส่วนการรวมตัวในที่กลางแจ้งจะถูกจำกัดไว้ไม่เกิน 6 คน หรือไม่เกิน 2 ครัวเรือน และยังห้ามการสังสรรค์ภายในอาคารกับคนที่ไม่ได้อยู่อาศัยด้วยกันหรือคนที่ไม่ได้กำหนดเป็นผู้ดูแล (Support Bubble) ไว้เป็นพิเศษ

 

รัฐบาลยังห้ามการเดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศ และย้ำว่ายังควรลดจำนวนการเดินทางในประเทศให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ส่วนการทำงานก็ควรทำจากที่บ้านหากทำได้เช่นกัน ระยะห่างระหว่างบุคคลที่ไม่ใช่บุคคลในครัวเรือนเดียวกันหรือไม่ได้กำหนดเป็นผู้ดูแลยังคงอยู่ที่ 2 เมตร หรือหากไม่สามารถเว้นระยะห่าง 2 เมตรได้ ก็ขอให้เว้นระยะ 1 เมตรพร้อมการระมัดระวังเป็นพิเศษ อาทิ การสวมใส่หน้ากากอนามัย อนึ่ง การสวมหน้ากากยังถือเป็นสิ่งที่ ‘ต้องปฏิบัติ’ เมื่ออยู่ในสถานที่ภายในอาคารหลายประเภท เว้นแต่จะอยู่ในข่ายยกเว้น ตัวอย่างของสถานที่กลุ่มนี้ได้แก่ ร้านค้า สถานปฏิบัติกิจทางศาสนา และในระบบขนส่งสาธารณะ

 

การก้าวเข้าสู่การคลายล็อกระยะที่ 2 ในอังกฤษเกิดขึ้นหลังสถานการณ์ผ่านเกณฑ์เงื่อนไข 4 ข้อที่รัฐบาลกำหนดไว้ ข้อแรกคือการให้วัคซีนยังคงดำเนินต่อไปอย่างประสบความสำเร็จ โดยจนถึงขณะนี้มีชาวสหราชอาณาจักรได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วราว 31.6 ล้านคน และได้รับวัคซีนโดสที่สองแล้ว 5.4 ล้านคน ซึ่งศาสตราจารย์คริส วิตตี ประธานเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอังกฤษ ยืนยันว่าอัตราการฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นอัตราที่ดี 

 

ส่วนข้อที่สองคือมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพในการลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตในหมู่ผู้ได้รับวัคซีนแล้ว โดยในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนจากทุกแคว้นของสหราชอาณาจักร พบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แสดงอาการลดลงอย่างสม่ำเสมอที่ราว 60% และอัตราการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลลดลง 80% ซึ่งวิตตีระบุว่าข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสูง แม้จะไม่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ไปทั้งหมดก็ตาม และประชาชนก็ควรทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับวัคซีนครบสองโดสด้วย

 

เงื่อนไขข้อที่สามคืออัตราการติดเชื้อไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้การพุ่งขึ้นของจำนวนการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งจะสร้างแรงกดดันที่ไม่ยั่งยืนต่อระบบสาธารณสุขแห่งชาติ (NHS) ของสหราชอาณาจักร โดยจำนวนผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลจากโควิด-19 ลดลงอย่างต่อเนื่องจากจุดสูงสุดและยังคงลดลงต่อไป เช่นเดียวกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลงต่อเนื่องเช่นกัน โดยปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ประมาณ 47 คนต่อวัน ลดลงจากจุดสูงสุดที่ราว 1,300 คนต่อวันเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ในปี 2021 และเงื่อนไขสุดท้ายคือการประเมินความเสี่ยงไม่ได้เปลี่ยนแปลงโดยพื้นฐานจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ แม้ว่าเรื่องนี้จะยังคงเป็นปัญหาอยู่ก็ตาม

 

จอห์นสันยังกระตุ้นให้ประชาชนรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากสถานที่ตรวจในท้องถิ่น แม้ว่าจะไม่มีอาการก็ตาม นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่ารัฐบาลมีแผนจะนำเอกสารรับรองเพื่อใช้ยืนยันว่าบุคคลนั้นมีภูมิต้านทานต่อโควิด-19 มาใช้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ ‘พาสปอร์ตวัคซีน’ ทั้งนี้ สื่ออังกฤษรายงานในเบื้องต้นว่าเอกสารดังกล่าวอาจถูกนำมาใช้ภายในประเทศ และระบุว่าแผนดังกล่าวอาจต้องเผชิญกับความไม่เห็นด้วยจาก ส.ส. ในสภาอย่างน้อย 70 คน โดยเซอร์เคียร์ สตาร์เมอร์ ผู้นำพรรคเลเบอร์ ระบุว่าหากทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสอยู่ภายใต้การควบคุมได้ อัตราการเสียชีวิตใกล้เป็นศูนย์ และอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลต่ำมากแล้ว เขาเชื่อว่าสัญชาตญาณของชาวอังกฤษในสถานการณ์เหล่านี้จะต่อต้านการใช้พาสปอร์ตวัคซีน อย่างไรก็ตาม ในการแถลงข่าวที่เกิดขึ้น จอห์นสันยืนยันว่าเอกสารรับรองดังกล่าวจะยังไม่ถูกนำมาใช้ในการคลายล็อกดาวน์ระยะที่สองและสาม ดังนั้นจะมีการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายหลัง

 

ต่อมา BBC รายงานว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักรเผยแพร่ายละเอียดออกมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารรับรองการมีภูมิต้านทานโควิด-19 โดยระบุว่าเอกสารนี้อาจมีบทบาททั้งในและต่างประเทศ และอาจถูกนำมาใช้ในบางสถานที่ เช่น โรงภาพยนตร์ ไนต์คลับ และกิจกรรมขนาดใหญ่เพื่อลดความเสี่ยง โดยเว้นบางสถานที่ที่ต้องการการประกันการเข้าถึงสำหรับทุกคน เช่น ในร้านค้าสินค้าจำเป็นหรือในระบบขนส่งสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจถูกใช้เพื่อลดข้อกำหนดเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมในสถานที่ให้บริการต่างๆ แต่ก็จะมีการหารือกับภาคอุตสาหกรรมเพิ่มเติมต่อไป และบุคคลอาจจะได้เอกสารรับรองนี้จากการมีภูมิคุ้มกันเองตามธรรมชาติหรือผ่านการตรวจ แต่ก็จะมีการยกเว้นการมีเอกสารสำหรับผู้ที่ไม่ควรรับวัคซีนหรือผู้ที่ยากแก่การทดสอบภูมิคุ้มกันซ้ำๆ ด้วย

 

จอห์นสันยังบอกด้วยว่ารัฐบาลมีความหวังว่าประชาชนจะสามารถออกเดินทางจากอังกฤษไปต่างประเทศได้ในวันที่ 17 พฤษภาคม และจะพยายามแจ้งให้ภาคอุตสาหกรรมทราบล่วงหน้ามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หลังจากขณะนี้รัฐบาลอนุญาตให้พลเมืองเดินทางได้เมื่อมีเหตุผลจำเป็นเท่านั้น

 

ภาพ: Stefan Rousseau-WPA Pool / Getty Images

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising