การเมืองสหราชอาณาจักรส่อเค้าวุ่นเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักรมีมติไม่รับรองข้อตกลงของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ อีกครั้ง ด้วยมติ 391 ต่อ 242 เสียง นับเป็นการคว่ำข้อเสนอรอบที่ 2 นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา ส่งผลให้แผนการ Brexit รวนและอยู่บนความไม่แน่นอน ก่อนถึงกำหนดเส้นตายที่กระบวนการ Brexit จะแล้วเสร็จในวันที่ 29 มีนาคมนี้ หรืออีกเพียง 2 สัปดาห์เศษ
ความพยายามของนายกฯ เมย์คือการหาจุดร่วมของข้อตกลงที่จะพยายามจะให้สหราชอาณาจักรค่อยๆ ขยับตัวออกจากสหภาพยุโรป ซึ่งยังคงสิทธิและผลประโยชน์บางประการที่มีร่วมกันไว้ ซึ่งหากสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปโดยปราศจากข้อตกลง นั่นหมายความว่าสหราชอาณาจักรจะต้องตัดขาดความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรป ซึ่งอาจรวมถึงความยากลำบากในการเริ่มต้นเจรจากับประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปใหม่ทั้งหมด อีกทั้งจะยิ่งทำให้ภาคธุรกิจและชาวอังกฤษที่อาศัยอยู่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้คือในวันนี้ (13 มี.ค.) นายกฯ เมย์จะเสนอญัตติต่อสมาชิกสภาผู้แทนฯ อีกครั้งว่าอยากให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปโดยปราศจากข้อตกลงหรือไม่ ถ้าผลลงมติคือไม่ก็จะเสนอญัตติใหม่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) เกี่ยวกับการยืดระยะเวลาออกจากสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการจากกำหนดเดิม 29 มีนาคมนี้ ตามมาตรา 50
นอกจากนี้นายกฯ เมย์ยังประกาศให้สมาชิกพรรคอนุรักษนิยมฟรีโหวต โดยลงมติตามความคิดเห็นส่วนตัวของตนได้เลย ไม่จำเป็นต้องลงมติตามความเห็นของพรรค เพื่อต้องการที่จะทราบจุดยืดที่แน่ชัดเกี่ยวกับกระบวนการ Brexit ว่าต้องการดำเนินการอย่างไรต่อกันแน่ ทางด้าน นายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เรียกร้องให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่โดยเร็ว พร้อมต้องการให้กระบวนการ Brexit เป็นไปตามจุดยืนของพรรคแรงงาน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: