วันนี้ (10 เมษายน) ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (แยกคอกวัว) กลุ่มอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดย นพ.เหวง โตจิราการ, วีระกานต์ มุสิกพงศ์, ธิดา ถาวรเศรษฐ และ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ร่วมกันจัดงานรำลึกและสดุดีวีรชน ครบรอบสลายการชุมนุม 12 ปี 10 เมษายน 2553
ณัฐวุฒิระบุว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้เพื่อลำรึกความสูญเสียของประชาชนจากการล้อมปราบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกิจกรรมกันทุกปี เพื่อประกาศว่ายังไม่มีกระบวนการยุติธรรมดำเนินการกับคนกระทำความผิด ทั้งนี้ ไม่มีเจตนามาตอกลิ่มความขัดแย้ง หรือมีเงื่อนไข เติมความแตกแยกในสังคมไทยให้ลุกลามบานปลาย แต่ต้องการรักษาแผลเก่า เพราะหากไม่มีความยุติธรรมให้ประชาชนผู้สูญเสีย ก็จะเป็นหลักประกันให้ผู้มีอำนาจว่าสามารถใช้กำลังปราบประชาชนได้อีกในอนาคต แล้วลอยนวลจากความผิด
ทั้งนี้ ความขัดแย้งของสังคมไทยที่มีมากขึ้นทุกวัน ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าในอนาคตอาจจะมีการเคลื่อนไหวต่อสู้ของประชาชนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก และอาจเกิดเหตุการณ์แบบวันที่ 10 เมษายน 2553 ได้อีกครั้ง ตราบที่ฝ่ายรัฐเชื่อมั่นทำแล้วไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย และเวลานี้เป็นช่วงการต่อสู้ของวัยหนุ่มสาว เพื่อเรียกร้องเสรีภาพอยู่บนถนน และสุ่มเสี่ยงเผชิญหน้ากับรัฐ จึงต้องมาตอกย้ำเหตุการณ์ในวันนั้น เพื่อไม่ให้ถูกกระทำโดยรัฐ และต้องเดินหน้ากระบวนการยุติธรรม คนทำผิดต้องรับผิดชอบ ซึ่งตลอด 12 ปี แกนนำประชาชนถูกจับกุมคุมขังถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายรัฐที่เป็นคู่กรณีไม่มีใครถูกดำเนินคดีแม้แต่คนเดียว
ณัฐวุฒิยังกล่าวอีกว่า เชื่อว่าไฟของการต่อสู้ของคนหนุ่มสาวยังสว่าง เพียงแค่เวลาและสถานการณ์ รวมถึงกระบวนการขับเคลื่อนอาจจะต้องการสรุปบทเรียนและจัดวางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีใหม่ ซึ่งจะเป็นโจทย์ที่คนหนุ่มสาวจะต้องคิดกัน และพวกตนเองก็พร้อมจะเป็นส่วนเติมเต็มอะไรที่เป็นประโยขน์ในการต่อสู้ และหวังว่าประสบการณ์ของคนหนุ่มสาวจะเป็นบทสรุปและนำมาสู่การขับเคลื่อนต่อให้เข้ากับสถานการณ์ และตนเองเห็นว่าเมื่อเดินมาในระยะเวลาหนึ่งการสรุปและทบทวนบทเรียนเป็นเรื่องจำเป็น และตนเองขอฝากความหวังไว้ที่คนหนุ่มสาว
ทั้งนี้ บริเวณพื้นที่จัดงานมีการนำรูปภาพในเหตุการณ์ปี 2553 มาติดไว้ให้มวลชนได้ชม ทั้งนี้ มีนักเคลื่อนไหวการเมืองจากกลุ่มต่างๆ แกนนำพรรคการเมืองอย่าง พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล มาร่วมงานรำลึกในครั้งนี้ด้วย ซึ่งได้มีพิธีสงฆ์และมีการวางพวงหรีดเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้สูญเสียด้วย
