ศึกชิงหุ้นระหว่าง อีลอน มัสก์ กับ Twitter ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการ (บอร์ด) ของ Twitter ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้นำแผน ‘Poison Pill’ หรือแผน ‘ยาพิษ’ มาใช้ เพื่อดัดหลัง อีลอน มัสก์ ที่พยายามเข้าซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร (Hostile Takeover) ด้วยการยื่นข้อเสนอซื้อหุ้น Twitter ในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ด้วยเงินสด คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท
สำหรับ Poison Pill เป็นวิธีการทั่วไปที่นิยมนำมาใช้ในกรณีที่มีผู้เข้ามาซื้อกิจการในแบบที่ไม่เป็นมิตร ซึ่งภายใต้แผนนี้ หากมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดพยายามซื้อหุ้นของบริษัทจนมีสัดส่วนสูงกว่า 15% ของหุ้นสามัญทั้งหมด โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากบอร์ด หรือผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ แผนการนี้ก็จะเริ่มใช้งานทันที โดยผู้ถือหุ้นทุกคนยกเว้นผู้ที่พยายามเข้ามาซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร จะได้สิทธิซื้อหุ้นออกใหม่ในราคาที่มีส่วนลด
แน่นอนว่าวิธีนี้จะทำให้มูลค่าหุ้นในระยะสั้นปรับตัวลดลง เพราะเท่ากับว่าจะมีหุ้นใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่มูลค่ากิจการยังคงเท่าเดิม ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นในปัจจุบัน แต่ก็ทำให้ผู้ที่เข้ามาซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตรต้องใช้เงินที่มากขึ้นในการเทกโอเวอร์กิจการด้วยเช่นกัน โดยแผน Poison Pill นี้จะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี จนถึงวันที่ 14 เมษายน 2023
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- ‘อีลอน มัสก์’ ยื่นข้อเสนอขอซื้อหุ้น Twitter ทั้ง 100% ในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์
- อีลอน มัสก์ เข้าถือหุ้น Twitter 9.2% มูลค่ากว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์ แม้ก่อนหน้านี้ทวีตตำหนิว่าล้มเหลวในการเปิดเสรีภาพการพูด
ปัจจุบันมัสก์ถือหุ้น Twitter ในสัดส่วน 9.2% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนราว 2.8 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท และเจ้าตัวก็เพิ่งประกาศข่าวช็อกโลกไปเมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ด้วยการยื่นข้อเสนอขอซื้อหุ้น Twitter ทั้งหมดในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ โดยเขาหวังเปลี่ยนแพลตฟอร์ม Twitter ให้กลายเป็นบริษัทส่วนตัวของเขา
“ผมลงทุนใน Twitter เพราะเชื่อในศักยภาพของมันในการเป็นแพลตฟอร์มที่ให้เสรีภาพในการแสดงความเห็นจากทั่วโลก ผมเชื่อว่าเสรีภาพในการแสดงออกเป็นสิ่งจำเป็นทางสังคมสำหรับระบอบประชาธิปไตย” มัสก์เขียนข้อความดังกล่าวในจดหมายที่ส่งถึง เบรต เทย์เลอร์ ประธานของ Twitter
มัสก์ยังระบุด้วยว่า แพลตฟอร์ม Twitter จำเป็นต้องเปลี่ยนสถานะจากการเป็นบริษัทมหาชนมาเป็นบริษัทส่วนบุคคล เพราะภายใต้สถานะปัจจุบันมันไม่สามารถรับใช้อุดมการณ์เสรีภาพแห่งการแสดงความคิดเห็นได้
“ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมจึงยื่นข้อเสนอขอซื้อหุ้น Twitter ทั้ง 100% ในราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ด้วยเงินสด ซึ่งเป็นราคาที่ดีกว่าวันที่ผมเริ่มลงทุนใน Twitter 54% และดีกว่าวันที่การลงทุนของผมเป็นที่รับรู้ของสาธารณชน 38% ข้อเสนอนี้เป็นข้อเสนอที่ดีที่สุด และจะเป็นข้อเสนอสุดท้ายของผม ถ้ามันไม่ได้รับการตอบรับผมคงต้องทบทวนตัวเองจากสถานะการเป็นผู้ถือหุ้น” มัสก์ระบุในจดหมาย
อ้างอิง:
