ช่วงปีที่ผ่านมา การแพทย์ฝั่งตะวันตกตื่นเต้นกับคุณประโยชน์อันแสนมหัศจรรย์ของ Turmeric เป็นอย่างมาก ในขณะที่แพทย์แผนตะวันออกได้ยินเรื่องนี้แล้วอาจหัวเราะว่าที่จริงพวกฉันรู้เรื่อง Turmeric มากว่า 4,000 ปีแล้ว และพวกเราหลายคนก็คงจะเคยรับประทาน Turmeric มาบ้างไม่มากก็น้อย เพราะพืชมหัศจรรย์ที่เรากำลังกล่าวถึงนี้ก็คือ ขมิ้นชัน นั่นเอง
หมอยาไทยรู้จักนำขมิ้นชันมาใช้ในการรักษาโรคระบบทางเดินอาหารมานานแล้ว หลักฐานสำคัญคือตำราพระโอสถพระนารายณ์ ซึ่งเป็นตำรายาแผนไทยที่ได้รับการรวบรวมเอาไว้ในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีระบุเอาไว้ถึงประโยชน์ของขมิ้นชันอย่างชัดเจน แต่เชื่อกันว่าหมอยาไทยรู้จักใช้ขมิ้นชันกันมานานกว่านั้นหลายร้อยปีแล้ว
ขมิ้นชันเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย มีประโยชน์อีกหลายอย่างที่วงการแพทย์กำลังทำการศึกษา และจะประกาศให้โลกรู้ในอีกไม่ช้านี้ ความโชคดีของคนไทยเราก็คือ ขมิ้นชันเป็นอะไรที่อยู่ในวิถีชีวิตของคนเรามานานแล้ว
ตำราอายุรเวทของอินเดียมีบันทึกว่า คนอินเดียรู้จักและนิยมบริโภคขมิ้นชัน โดยใช้เป็นทั้งยาสมานแผล และสารทำความสะอาดบาดแผลเป็นเวลานานร่วม 3,000 ปีแล้ว เช่น เวลามีคนบาดเจ็บ หมอจะสั่งยาที่มีขมิ้นและขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบ ใครมีอาการท้องเสีย ท้องอืด หรือท้องเฟ้อ หมอก็จะสั่งให้กินขมิ้นและขมิ้นชัน รวมไปถึงคนไข้ที่มีอาการจิตตก จิตใจห่อเหี่ยว ตำราอายุรเวทก็พบว่าขมิ้นชันช่วยรักษาอาการได้เช่นกัน ยังไม่นับถึงตำรายาในสมัยราชวงศ์ถัง และราชสำนักญี่ปุ่นโบราณก็มีการนำขมิ้นชันหรือ Turmeric มาใช้กันอย่างกว้างขวาง
แต่การแพทย์ทางฝั่งตะวันออก จะมีรูปแบบของการสั่งสอนและสั่งสมองค์ความรู้แบบบอกต่อ อาจารย์ถ่ายทอดความรู้สู่ลูกศิษย์ บอกปากต่อปาก แต่การจดจารเป็นตำราไม่ละเอียดนัก ทั้งยังไม่ได้เน้นเรื่องการทำวิจัยอย่างจริงจัง ซึ่งระบบจะแตกต่างจากการแพทย์ฝั่งตะวันตก ที่จะต้องมีการพิสูจน์ข้อสมมติฐาน มีการวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นระบบ จึงจะสามารถเชื่อถือและอ้างอิงได้ จึงไม่แปลกอะไรที่จะพบว่าหมอฝรั่งเพิ่งจะมาตื่นเต้นกับคุณประโยชน์มหัศจรรย์ของขมิ้นชันหรือ Turmeric เมื่อสามสิบกว่าปีนี่เอง เราพบว่าในช่วงระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมา มีวิจัยทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับขมิ้นชันออกมาไม่ต่ำกว่า 3,000 ชิ้น และวิจัยเหล่านี้ช่วยให้เราเห็นคุณประโยชน์ที่หลากหลายของ Turmeric มากยิ่งขึ้นไปกว่าที่เราเคยรู้มาแล้ว
นอกเหนือจากคุณสมบัติช่วยรักษาโรคของระบบทางเดินอาหารแล้ว เราพบว่าขมิ้นชันยังมีประโยชน์อีกมากมาย ดังนี้
1. มีสารต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย รวมถึงช่วยฆ่าเชื้อโรค จึงมีการนำขมิ้นชันมาใช้สำหรับใส่แผลสด ทำให้การสมานแผลเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
2. มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ ให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี วิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ พบว่าหากให้ผู้ป่วยมะเร็งรับประทานยาที่มีขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบ ร่วมไปกับการให้ยาเคมีบำบัด จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงช่วยลดอาการข้างเคียงจากการได้รับยาอีกด้วย นอกจากนี้วิจัยฉบับเดียวกันยังบอกอีกด้วยว่าขมิ้นชันช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งของระบบทางเดินอาการ โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วยครับ
3. ขมิ้นชันมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มสารสื่อประสาทในสมองของเรา การรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบเป็นประจำสม่ำเสมอ จะช่วยให้สมองมีความจำที่ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ รวมไปถึงช่วยลดอาการซึมเศร้า ช่วยเพิ่มความกระฉับกระเฉงให้กับความคิดความอ่านได้ดีมาก ฉะนั้น อย่าแปลกใจนะครับ ถ้าหากปี 2018 นี้จะเริ่มมีการพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มสูตรขมิ้นชันออกมาให้เราได้เลือกซื้อกันไม่หวาดไม่ไหว
4. สารบางอย่างในขมิ้นชัน สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้กับผนังหลอดเลือดชั้นใน ดังนั้นวิจัยทางการแพทย์หลายฉบับจึงชี้ให้เห็นว่า ขมิ้นชันมีผลช่วยลดอัตราการตายจากหัวใจขาดเลือดได้อย่างชัดเจน
5. ช่วยลดอาการปวดข้อ จากผลงานวิจัยของคุณหมอ Sanmukani ชาวอินเดีย พบว่าขมิ้นชันมีผลช่วยลดอาการปวดข้อของผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ได้เป็นอย่างดี
ขมิ้นชันเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย มีประโยชน์อีกหลายอย่างที่วงการแพทย์กำลังทำการศึกษา และจะประกาศให้โลกรู้ในอีกไม่ช้านี้ ความโชคดีของคนไทยเราก็คือ ขมิ้นชันเป็นอะไรที่อยู่ในวิถีชีวิตของคนเรามานานแล้ว ทุกวันนี้ก็หาได้ไม่ยาก แถมยังราคาไม่แพง ในสำรับอาหารหลายอย่างของบ้านเราก็มีขมิ้นชันเป็นส่วนประกอบ
อ่านบทความนี้จบแล้ว เรารีบไปหาขมิ้นชันรับประทานกันดีกว่าครับ คุณประโยชน์มากมายกำลังรอคุณๆ อยู่แล้ว
Photo: shutterstock
อ้างอิง:
- ตำราพระโอสถพระนารายณ์ รวบรวมขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งที่ชัดเจน
- www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK92752
- www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/23832433
- ตำราพระโอสถพระนารายณ์ ไม่ได้แต่งโดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แต่รวบรวมขึ้นในสมัยนั้น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอธิบายไว้ว่า ที่เรียกว่าตำราพระโอสถพระนารายณ์ เพราะเป็นตำราที่รวบรวมสูตรยาหลายขนาน ที่หมอหลวงเคยปรุงขึ้นเพื่อถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สูตรยาแต่ละสูตรจะมีชื่อหมอและวันเวลา ที่หมอได้ทำพระโอสถชนิดนั้นขึ้นถวาย มีการบันทึกจดเอาไว้อย่างชัดเจน
- ในแผ่นปาปิรุส Ebers ของอียิปต์ ซึ่งมีอายุมากกว่า 1,500 ปีก่อนคริสตกาล เป็นปาปิรุสที่จดสูตรยาต่างๆ ที่ใช้กันในเวลานั้น ก็มีการพูดถึงประโยชน์ของขมิ้นชันเอาไว้ว่า คนอียิปต์โบราณใช้สำหรับย้อมสีผ้าและนำมาใช้สมานแผล ในหนังสือของเฮอรอโดทัสก็บรรยายถึงความงามของสวนลอยแห่งบาบิโลน ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ และบอกด้วยว่ามีการปลูกขมิ้นชันไว้ในสวนลอยแห่งนั้นด้วย แสดงให้เห็นว่าโลกรู้จัก Turmeric มานานหลายพันปีแล้ว