ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี มีคำสั่งเมื่อวานนี้ (23 ตุลาคม) ให้ขับเอกอัครราชทูตจาก 10 ชาติตะวันตก ได้แก่ สหรัฐฯ เยอรมนี แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ออกจากประเทศ โดยเริ่มจากการประกาศให้ทั้ง 10 คนเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา และไม่ต้อนรับในประเทศ
การดำเนินการดังกล่าวเป็นการตอบโต้หลังจากที่เอกอัครราชทูตจากทั้ง 10 ประเทศได้ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เรียกร้องให้ทางการตุรกีหาทางออกที่เป็นธรรมและรวดเร็วให้แก่คดีของ ออสมัน คามาลา (Osman Kavala) นักธุรกิจผู้ใจบุญและนักเคลื่อนไหวชาวตุรกี ที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาให้การสนับสนุนทางการเงินแก่การประท้วงต่อต้านรัฐบาลทั่วประเทศเมื่อปี 2013 และมีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามก่อรัฐประหารโค่นรัฐบาลของแอร์โดอันที่ล้มเหลวในปี 2016
ซึ่งเอกอัครราชทูตทั้ง 10 ประเทศยังเรียกร้องให้ตุรกีปล่อยตัวคามาลาโดยเร็ว ก่อนจะถูกกระทรวงการต่างประเทศตุรกีเรียกพบและประณามแถลงการณ์ดังกล่าวว่าไร้ความรับผิดชอบ ขณะที่ประธานาธิบดีแอร์โดอัน กล่าวหาเอกอัครราชทูตทั้งหมดว่ากระทำการไม่เหมาะสม และต้องออกจากประเทศเพราะไม่เข้าใจตุรกี
“ผมให้คำสั่งที่จำเป็นแก่รัฐมนตรีต่างประเทศของเรา และบอกว่าอะไรที่ต้องทำ เอกอัครราชทูตทั้ง 10 คนนี้ ต้องได้รับการประกาศเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาพร้อมกัน และให้ดำเนินการในทันที”
“พวกเขาต้องรู้จักและเข้าใจตุรกีในวันที่พวกเขาไม่รู้จักและไม่เข้าใจตุรกี พวกเขาต้องออกไปจากที่นี่” แอร์โดอัน กล่าว
ทั้งนี้สหรัฐฯ และชาติตะวันตกทั้ง 10 ประเทศยังไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อท่าทีของตุรกี ขณะที่เอกอัครราชทูต 7 ใน 10 มาจากประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ซึ่งคาดว่าความเคลื่อนไหวของตุรกีในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบที่ร้าวลึกต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างตุรกีกับชาติตะวันตก
ภาพ: Photo by Getty Images
อ้างอิง: