Tsujiri Chaho ร้านค้าปลีกมัทฉะชื่อดังจากญี่ปุ่น เตรียมเปิดร้านชาแห่งใหม่ใจกลางกรุงปารีสในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นการขยายสาขาในต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิดและเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในการก้าวขึ้นเป็น ‘Starbucks แห่งโลกของชา’
บริษัทซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในเมืองคิตะคิวชู ได้เริ่มขยายสาขาไปต่างประเทศครั้งแรกที่ไต้หวันในปี 2010 ก่อนจะขยายไปทั่วเอเชียรวมถึงในประเทศไทย และบุกตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือตั้งแต่ปี 2016
แม้บางสาขาในฮ่องกงและออสเตรเลียจะปิดตัวลงช่วงโควิด แต่สาขาใหม่ที่ปารีสจะทำให้จำนวนสาขาในต่างแดนกลับมาอยู่ที่ 40 แห่งอีกครั้ง ซึ่งในปี 2024 ที่ผ่านมา บริษัทได้ส่งออกมัทฉะไปยังสาขาเหล่านี้ถึง 15 เมตริกตัน ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วเทียบเท่ากับการบริโภคเครื่องดื่มมัทฉะนอกประเทศญี่ปุ่นถึงราว 2.5 ถึง 3 ล้านแก้ว
ชิโระ สึจิ ซีอีโอของ Tsujiri ได้อธิบายถึงสูตรแห่งความสำเร็จที่เขาใช้เวลากว่าทศวรรษในการสร้างสรรค์ว่าประกอบด้วย “พื้นฐาน 90% และความสนุกสนาน 10%” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการนำเสนอวัฒนธรรมชาเขียวให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
ในส่วนของพื้นฐานนั้นหมายถึงการควบคุมคุณภาพของชาอย่างเข้มงวดในระดับห้องปฏิบัติการ โดย ‘หัวใจคือคุณภาพ’ คือสิ่งที่สำคัญที่สุด มีการวิเคราะห์ขนาดของอนุภาคชา, ความชื้น, ความสว่าง และสีสันของมัทฉะทุกล็อต รวมถึงการตรวจสอบสารกำจัดศัตรูพืชและเก็บตัวอย่างไว้เป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อรับประกันคุณภาพ
ส่วนของความ ‘สนุกสนาน’อีก 10% คือการสร้างสรรค์เมนูพิเศษที่ปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมและรสชาติของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์สามารถเข้าไปนั่งในใจของผู้บริโภคในหลากหลายประเทศได้อย่างลงตัว
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการใช้มะม่วงเป็นส่วนผสมในร้านที่ไต้หวัน, การใช้เมเปิ้ลไซรัปในแคนาดา, การดัดแปลงเมนูน้ำแข็งไสยอดนิยมอย่าง halo-halo ในฟิลิปปินส์ หรือแม้กระทั่งการจัดชุดของหวานในสไตล์ชายามบ่าย (afternoon tea) ในสหราชอาณาจักร
สึจิ ซีอีโอรุ่นที่หกของตระกูล กล่าวว่า “หลายคนมองว่ามัทฉะเป็นเพียงรสชาติหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วมันคือ ‘วัฒนธรรมญี่ปุ่น’ ที่สามารถแบ่งปันไปทั่วโลกได้” ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่บริษัทมุ่งมั่นมาโดยตลอด
เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ดังกล่าว เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาได้เชิญพันธมิตรทางธุรกิจจากทั่วโลกมายังปราสาทโคคุระในเมืองคิตะคิวชู เพื่อจัดสัมมนาเกี่ยวกับชาและถ่ายทอด ‘จิตวิญญาณแห่งการต้อนรับ’ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมชา
“เราต้องการเน้นย้ำเรื่องราวของเราที่เติบโตมาจากเมืองเล็กๆ เพื่อนำมัทฉะไปสู่สายตาชาวโลก” สึจิกล่าว พร้อมเปิดเผยว่าบริษัทกำลังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคตะวันออกกลางเป็นลำดับถัดไป
ภาพ: THANAPHON SUBSANG / Shutterstock
อ้างอิง: