โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เตือนฮามาสต้องเผชิญ ‘ผลลัพธ์ร้ายแรง’ หากไม่ยอมปลดอาวุธ พร้อมเตือนอิหร่านว่า หากพยายามฟื้นโครงการนิวเคลียร์ จะกวาดล้างอย่างรวดเร็วและถล่มซ้ำ
เมื่อคืนนี้ (29 ธันวาคม) ทรัมป์พบกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่รีสอร์ตมาร์อาลาโก รัฐฟลอริดา ที่พักส่วนตัวของผู้นำสหรัฐฯ หลังเชิญผู้นำอิสราเอลมาหารือประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ได้แก่ ข้อตกลงหยุดยิงกาซา การพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า เขาต้องการเดินหน้าเข้าสู่เฟสที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิงกาซา หลังบรรลุเงื่อนไขเฟสแรกในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งขั้นต่อไปคือ การส่งกองกำลังรักษาสันติภาพนานาชาติเข้าไปประจำการในปาเลสไตน์ ก่อนจะย้ำว่า อิสราเอลได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงแล้ว และเตือนให้ฮามาสปลดอาวุธตาม ไม่เช่นนั้นจะเผชิญผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างร้ายแรง ซึ่งตนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น
“ถ้าฮามาสไม่ปลดอาวุธ ทั้งที่ตกลงกันไว้แล้ว จะต้องเจอกับการตอบโต้ที่รุนแรง และเราไม่ต้องการให้เกิดแบบนั้น” ทรัมป์กล่าว
นอกจากนี้ทรัมป์ยังระบุว่า อิหร่านกำลังพยายามฟื้นฟูโครงการนิวเคลียร์ หลังสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศฐานโรงงาน 3 แห่ง คือ นาทานซ์, ฟอร์โดว์ และอิสฟาฮานในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยทรัมป์ย้ำว่า หากสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง สหรัฐฯ จะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจาก ‘ถล่ม’ และ ‘กำจัด’ อย่างรวดเร็วกว่าครั้งก่อน
“เรารู้หมดว่า พวกเขาไปที่ไหน ทำอะไรอยู่ และผมหวังว่า พวกเขาจะไม่ทำ เพราะเราไม่อยากเสียเชื้อเพลิงกับเครื่องบิน B-2” ทรัมป์อ้างถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้ในการโจมตีครั้งก่อน โดยอธิบายว่า สหรัฐฯ ไม่อยากเสียเชื้อเพลิงในการบินไป-กลับ 37 ชั่วโมง
เมื่อถูกถามว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนอิสราเอล หากโจมตีโครงการขีปนาวุธของอิหร่านหรือไม่ ทรัมป์ทิ้งท้ายว่า ใช่ แต่สำหรับกรณีฐานนิวเคลียร์ เขาจะจัดการอย่างรวดเร็ว พร้อมย้ำว่า อิหร่านควรทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ เพราะเป็นทางเลือกที่ฉลาด
ปัจจุบัน ฮามาสและอิหร่านยังไม่ได้ออกมาโต้ตอบคำพูดของทรัมป์ ขณะที่สื่อต่างประเทศจับตามองถ้อยแถลงครั้งนี้ว่า สหรัฐฯ ยืนอยู่ข้างอิสราเอลอย่างชัดเจน ซึ่งเสี่ยงต่อการสร้างความตึงเครียดในตะวันออกกลางยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้อิสราเอล-ฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง แต่ความขัดแย้งและความรุนแรงยังไม่ยุติลง โดย Reuters รายงานว่า อิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ 400 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ขณะที่กลุ่มฮามาสสังหารทหารอิสราเอลไป 3 นาย
ภาพ: Jonathan Ernst / Reuters
อ้างอิง:


