โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกากล่าวว่า เขาเตรียมพบกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียที่กรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของฮังการีในอนาคตอันใกล้ เพื่อหารือถึงประเด็นการค้าระหว่างรัสเซียและสหรัฐอเมริกา เมื่อสงครามรัสเซีย-ยูเครนสิ้นสุดลง
ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังทรัมป์ระบุว่า การโทรศัพท์พูดคุยกับปูตินเมื่อวานนี้ (16 ตุลาคม) ‘มีประสิทธิผลอย่างมาก’ (Very Productive) และเกิด ‘ความคืบหน้าครั้งใหญ่’ (Great Progress) อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่ได้ยืนยันวันที่จะทั้งคู่จะพบกันอย่างแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นภายในสองสัปดาห์นับจากนี้
ขณะที่เครมลินกล่าวว่าการโทรศัพท์ครั้งนี้ ‘ตรงไปตรงมาและน่าไว้วางใจอย่างยิ่ง’ (Extremely Frank and Trustful) และจะเริ่มดำเนินการสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างสองผู้นำในทันที
ผู้แทนรัฐบาลและที่ปรึกษาระดับสูงของทั้งสองประเทศ จะประชุมหารือกันในช่วงสัปดาห์หน้านี้ แต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยสถานที่แต่อย่างใด โดยมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเป็นผู้นำคณะผู้แทนของสหรัฐฯ ในครั้งนี้
การหารือระหว่างทรัมป์และปูตินทางโทรศัพท์เกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนที่ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนจะเดินทางเยือนทำเนียบขาวเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ต้นปี 2025 โดยคาดว่า ประเด็นเรื่องการจัดหาขีปนาวุธ Tomahawk ให้ยูเครนมีแนวโน้มที่จะเป็นวาระสำคัญในการเยือนของเซเลนสกีครั้งนี้
เซเลนสกีเรียกร้องให้สหรัฐฯ จัดหาขีปนาวุธขั้นสูงเหล่านี้ ซึ่งมีพิสัยทำการ 2,500 กม. (1,500 ไมล์) และสามารถโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซียได้ ทั้งยังระบุว่า รัสเซียกำลังเร่งรีบที่จะกลับมาเจรจาทันทีที่ได้ยินเกี่ยวกับ Tomahawk
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการให้ขีปนาวุธแก่ยูเครน ทรัมป์แสดงความลังเล โดยกล่าวว่า เราไม่สามารถลดปริมาณคลังแสง Tomahawk ของสหรัฐฯ ได้ เนื่องจากว่า สหรัฐฯ ก็ต้องการขีปนาวุธเหล่านี้เช่นเดียวกัน ในขณะที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยกล่าวไว้ว่า เขา ‘อาจจะ’ พิจารณาเรื่องการจัดหาขีปนาวุธให้กับยูเครน
ทางด้าน ออลกา สเตฟานิชินา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่รัสเซียโจมตีทางอากาศในยูเครนในชั่วข้ามคืนหลายชั่วโมง ก่อนการโทรศัพท์กับทรัมป์ เผยให้เห็น ‘ทัศนคติที่แท้จริงของรัสเซียต่อสันติภาพ’ เธอเชื่อว่า กลยุทธ์ของรัสเซียคือการก่อการร้าย และทำให้อ่อนล้า ขณะที่การตอบสนองที่มีประสิทธิผลคือ การกดดันผ่านการคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้น การเสริมการป้องกันภัยทางอากาศ และการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีพิสัยระยะไกล
ขณะที่วิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการีกล่าวบนแพลตฟอร์ม X ว่า การประชุมที่บูดาเปสต์ที่วางแผนไว้นั้นเป็น ‘ข่าวดีสำหรับผู้รักสันติภาพของโลก’ และเน้นย้ำว่ายุโรปต้องเปลี่ยนจุดยืน โดย “แทนที่จะหยิ่งยโสและเติมเชื้อเพลิงให้สงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุด เราต้องการการเจรจากับรัสเซีย”
ที่ผ่านมา ทรัมป์เคยมีท่าทีที่แข็งกร้าวต่อปูตินมากขึ้นในช่วงหลังจากการประชุมสุดยอดที่อะแลสกาในเดือนสิงหาคม ‘ล้มเหลว’ในการสร้างความก้าวหน้าที่เด็ดขาดในการไกล่เกลี่ยข้อตกลงสันติภาพ แม้ว่าการประชุมในอะแลสกาครั้งนั้นทรัมป์เคยยกย่องว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตที่สำคัญ แต่ก็ไม่ได้นำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด
แฟ้มภาพ: Andrew Harnik / Getty Images
อ้างอิง: