การประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคิมจองอึน ครั้งที่ 2 เปิดฉากขึ้นอย่างเรียบง่ายที่โรงแรมเมโทรโพลในกรุงฮานอยของเวียดนาม โดยทั้งคู่มีกำหนดการพบปะและพูดคุยกันแบบตัวต่อตัวเป็นระยะเวลาราว 20 นาที ก่อนที่จะรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน และเข้าประชุมเต็มรูปแบบในวันพรุ่งนี้ (28 ก.พ.)
เป้าหมายสำคัญของการเจรจาในครั้งนี้คือ การสานต่อและผลักดันประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีของกองทัพโสมแดง จากการประชุมซัมมิตทรัมป์-คิมครั้งแรกที่สิงคโปร์ เมื่อช่วงกลางปี 2018 ที่ผ่านมา โดยมีมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย รวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ช่วยเป็นหลักประกันด้านความมั่นคงและการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ
ก่อนหน้าที่ผู้นำทั้งสองคนจะพบกัน ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวชมเกาหลีเหนือว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงมากที่จะเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ พร้อมมีผู้นำที่ยิ่งใหญ่อย่างคิมจองอึน ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเจตนาที่แท้จริงของประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อนที่เขาจะทวีตข้อความว่า เขาให้เกียรติเกาหลีเหนือจากใจจริง ทั้งคิมจองอึนและเขาพยายามอย่างหนัก เพื่อให้การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือประสบผลสำเร็จ และสร้างเศรษฐกิจที่รุ่งเรืองให้เกิดขึ้นในประเทศนี้ให้ได้
ถึงแม้ว่าภายหลังจากการประชุมครั้งแรกจะมีความคืบหน้าในการผลักดันประเด็นนี้น้อยมาก แต่หลายฝ่ายยังคงเฝ้าหวังว่า การพบเจอกันของผู้นำที่ไม่สามารถคาดเดาได้ทั้งสองคนในครั้งนี้ จะมีส่วนสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นบนคาบสมุทรเกาหลี และส่งเสริมความมั่นคงให้แก่ประชาคมโลก
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์