×

การไต่สวนล่าสุดชี้ ทรัมป์ไม่พยายามยุติการจลาจลรัฐสภา แม้คนใกล้ชิดขอร้อง

โดย THE STANDARD TEAM
23.07.2022
  • LOADING...
โดนัลด์ ทรัมป์

การไต่สวนครั้งล่าสุดโดยคณะกรรมการเฉพาะกิจของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่เฉย ไม่ทำอะไร และปล่อยให้กลุ่มผู้สนับสนุนเดินหน้าก่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาเมื่อปีที่แล้ว 

 

การไต่สวน ซึ่งออกอากาศทั่วประเทศในช่วงไพรม์ไทม์ของคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (21 กรกฎาคม) และนับเป็นครั้งที่ 8 ตั้งแต่เดือนมิถุนายนนั้น มุ่งไปที่การหาคำตอบว่า โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังทำอะไรในระหว่างเกิดจลาจลที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021

 

คณะกรรมการพยายามเจาะไปที่ช่วงเวลา 187 นาที ตั้งแต่การกล่าวปราศรัยของทรัมป์ต่อกลุ่มผู้สนับสนุนบริเวณทำเนียบขาวสิ้นสุดลง ไปจนถึงนาทีที่ทรัมป์โพสต์วิดีโอขอให้กลุ่มผู้ก่อจลาจลกลับบ้าน เพื่อเน้นย้ำให้เห็นว่า เขาไม่ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วพอที่จะหยุดการจลาจล

 

ในช่วงเวลา 187 นาทีนั้น “ทรัมป์นั่งอยู่ในห้องอาหาร และดูเหตุการณ์โจมตีทางโทรทัศน์ ในขณะที่บรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโส ที่ปรึกษาใกล้ชิดที่สุด และสมาชิกในครอบครัวต่างพยายามขอร้องให้เขาทำในสิ่งที่คาดหวังว่าประธานาธิบดีอเมริกาทุกคนจะทำ” เอเลน ลูเรีย ส.ส. หญิงในคณะกรรมการเฉพาะกิจ กล่าวระหว่างการไต่สวน

 

“ประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธที่จะทำเพราะความต้องการที่เห็นแก่ตัวของเขาที่จะอยู่ในอำนาจต่อไป” ลูเรียกล่าว

 

ด้าน ลิซ เชนีย์ รองประธานคณะกรรมการไต่สวนจากพรรครีพับลิกัน ระบุว่า ทรัมป์ไม่สนใจคำร้องขอจากคนสนิทและคนในครอบครัวที่ต้องการให้เขาดำเนินการเพื่อยุติเหตุการณ์รุนแรง โดยคณะกรรมการได้ยกตัวอย่างข้อความจากโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายของอดีตประธานาธิบดี ที่ส่งถึง มาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว เมื่อวันที่ 6 มกราคม 

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของทำเนียบขาว ซึ่งขึ้นให้การโดยไม่เปิดเผยตัวตน กล่าวว่า ทีมรักษาความปลอดภัยของ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี กลัวว่าอันตรายจะมาถึงพวกเขา และได้โทรร่ำลาสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุจลาจลพุ่งความโกรธแค้นมาที่รองประธานาธิบดีแทน ด้วยเหตุที่เพนซ์ปฏิเสธที่จะใช้อำนาจหน้าที่ล้มล้างผลการเลือกตั้งในปี 2020

 

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นประธานในการนับคะแนนเสียงของคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral College) พันธมิตรของทรัมป์จึงผลักดันให้เพนซ์ใช้ตำแหน่งนั้นเพื่อล้มล้างการเลือกตั้งในปี 2020 ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นฝ่ายชนะ

 

ขณะที่ แมททิว พอตทิงเจอร์ อดีตรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ซึ่งเป็นพยาน 1 ใน 2 คนที่ให้การต่อหน้าคณะกรรมการเมื่อวันพฤหัสบดี กล่าวว่า ทวีตของทรัมป์ในช่วงบ่ายของวันที่ 6 มกราคม ซึ่งประณามเพนซ์ที่ไม่ขัดขวางการรับรองการเลือกตั้งในสภาคองเกรส ทำให้เขาตัดสินใจลาออก

 

พอตทิงเจอร์กล่าวว่า ตนรู้สึกกังวลและไม่สบายใจที่เห็นประธานาธิบดีโจมตีรองประธานาธิบดีเพนซ์ซึ่งทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ

 

“ทวีตนั้นตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ในขณะนั้น ซึ่งก็คือการลดความรุนแรง” เขากล่าวต่อคณะกรรมการ “นั่นคือช่วงเวลาที่ผมตัดสินใจว่าจะลาออก…ผมไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นที่รัฐสภา”

 

คณะกรรมการไต่สวนกล่าวว่า จากการสัมภาษณ์บุคคลหลายคนสามารถยืนยันได้ว่า ทรัมป์ไม่ได้โทรหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพ คณะทำงานของรองประธานาธิบดีเพนซ์ หรือเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง เพื่อให้ออกคำสั่ง หรือให้ความช่วยเหลือในระหว่างการจลาจล แต่ในทางกลับกัน อดีตประธานาธิบดีกลับเรียกร้องให้วุฒิสมาชิกสนับสนุนการชะลอหรือคัดค้านการรับรองผลการเลือกตั้งปี 2020 รวมถึงโทรหา รูดี จูเลียนี ทนายของเขา และพูดคุยกันประมาณ 4 นาที

 

คณะกรรมการไต่สวนยังได้เล่นไฟล์เสียงจาก พล.อ. มาร์ก มิลลีย์ ของสหรัฐฯ ซึ่งแสดงความงุนงงที่ทรัมป์ปฏิเสธที่จะดำเนินการเพื่อหยุดการจลาจล และไม่พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล

 

“คุณเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ทราบว่ามีการโจมตีที่อาคารรัฐสภาของสหรัฐอเมริกา แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่โทร ไม่ทำอะไรเลย” พล.อ. มิลลีย์กล่าว

 

ด้าน อดัม คินซิงเกอร์ ส.ส. พรรครีพับลิกัน 1 ใน 2 คนที่นั่งคณะกรรมการไต่สวน กล่าวว่า การกระทำของทรัมป์เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ถือเป็นการละเมิดคำสาบานตนที่เขาได้ให้ไว้เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

 

“โดนัลด์ ทรัมป์ จงใจละเมิดคำสาบานตน เพิกเฉยต่อการบังคับใช้กฎหมายเพื่อยุติเหตุการณ์รุนแรงที่กำลังเกิดขึ้น คุกคามระบอบรัฐธรรมนูญของเรา ไม่มีทางแก้ตัวให้พฤติกรรมดังกล่าว” คณะกรรมการไต่สวนระบุ

 

ภาพ: Tom Brenner for the Washington Post

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising