×

เปิดคำให้การใหม่พยานคนสำคัญ ในกระบวนการไต่สวนถอดถอนทรัมป์

16.11.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

3 MINS. READ
  • หลังการไต่สวน 2 พยานสำคัญต่อสาธารณชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนแล้ว วานนี้ (15 พฤศจิกายน) คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ไต่สวนพยานอีกคน ซึ่งยืนยันอีกเสียงว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ร้องขอให้รัฐบาลยูเครนช่วยสืบสวนข้อกล่าวหาทุจริตของ โจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2020

วานนี้ (15 พฤศจิกายน) คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เบิกพยานอีกคนขึ้นให้การในห้องไต่สวนปิด เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมประกอบการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง 

 

พยานสำคัญคนนี้คือ เดวิด โฮล์มส์ ผู้ช่วยทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศยูเครน ซึ่งยืนยันอีกเสียงว่าทรัมป์ได้พูดคุยโทรศัพท์กับทูตสหรัฐฯ ประจำสหภาพยุโรป (EU) ในกรุงเคียฟ เพื่อสอบถามความเป็นไปได้ที่รัฐบาลยูเครนจะเปิดฉากสืบสวนกรณีการทุจริตของ โจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญของทรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2020

 

และนี่คือส่วนหนึ่งจากการถอดความคำให้การของโฮล์มส์ที่ CNN ได้รับมา

 

โฮล์มส์ให้การต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในคณะกรรมาธิการประจำสภาล่างว่า เขาได้ยิน กอร์ดอน ซอนด์แลนด์ ทูตสหรัฐฯ ประจำ EU คุยโทรศัพท์ในร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ ซึ่งทรัมป์อยู่ในสายกับซอนด์แลนด์ โดยส่วนหนึ่งของบทสนทนาระบุว่า “ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน พร้อมเดินหน้าสืบสวนไบเดน” 

 

การสนทนาครั้งนั้นมีขึ้นในวันที่ 26 กรกฎาคม หรือหนึ่งวันหลังจากทรัมป์โทรศัพท์คุยกับเซเลนสกี เพื่อกดดันผู้นำยูเครนให้ตรวจสอบข้อกล่าวหาการทุจริตของไบเดน รวมถึงบุตรชายของเขา ฮันเตอร์ ไบเดน ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของยูเครนในช่วงที่พ่อของเขานั่งเก้าอี้รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

คำให้การของโฮล์มส์ตรงกับข้อมูลที่ วิลเลียม เทย์เลอร์ รักษาการทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศยูเครนให้ไว้กับคณะกรรมการสอบสวนของสภาล่างเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน โดยวันนั้น เทย์เลอร์เล่าว่า โฮล์มส์ ผู้ช่วยของเขา นำสิ่งที่ได้ยินจากปากซอนด์แลนด์ที่ร้านอาหารในกรุงเคียฟมาเล่าให้เขาฟัง

 

โฮล์มส์ให้การว่า ซอนด์แลนด์บอกทรัมป์ในสายว่า เซเลนสกีชื่นชอบทรัมป์ จากนั้นเขาได้ยินทรัมป์ถามกลับว่า ผู้นำยูเครนจะสืบเรื่องนี้ให้ใช่ไหม ซึ่งซอนด์แลนด์ตอบกลับว่า ประธานาธิบดีเซเลนสกี “จะทำทุกอย่างที่ท่านขอให้เขาทำ”

 

โฮล์มส์ชี้แจงต่อว่า เขาได้ยินคำพูดของทรัมป์อย่างชัดเจน เพราะเสียงจากโทรศัพท์ดังมาก ถึงแม้ซอนด์แลนด์จะไม่ได้เปิดลำโพงก็ตาม

 

“เสียงท่านประธานาธิบดีดังมาก และมีเอกลักษณ์ที่ทำให้จำได้ ขณะที่ทูตซอนด์แลนด์ต้องยกโทรศัพท์ห่างจากหูพักหนึ่ง เพราะเสียงดังมาก” โฮล์มส์ กล่าว 

 

“ถึงแม้ผมไม่ได้จดคำพูดเหล่านั้นไว้ แต่ผมจำได้ชัดเจน”

 

 

 

ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่าพยายามกดดันให้ประธานาธิบดีเซเลนสกีสืบสวนข้อกล่าวหาของสองพ่อลูกไบเดน โดยนำเงินช่วยเหลือทางการทหารที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครนมาเป็นเครื่องต่อรอง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยืนกรานปฏิเสธมาโดยตลอดว่าไม่ได้กระทำผิด

 

แต่กระนั้นโฮล์มส์ได้ยืนยันในสิ่งที่เทย์เลอร์ให้การก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับมุมมองของทรัมป์ที่มีต่อยูเครน โดยซอนด์แลนด์เปิดเผยกับโฮล์มส์ว่า ทรัมป์สนใจเพียงเรื่องใหญ่เท่านั้น จากนั้นโฮล์มส์บอกเขาว่า สงครามในยูเครนก็ใหญ่นะ แต่ซอนด์แลนด์ตอบเขาว่า เรื่องใหญ่ในที่นี้คือ “เรื่องใหญ่ที่เป็นประโยชน์ต่อประธานาธิบดี เช่น การสืบสวนไบเดนที่ (รูดี) จิวเลียนีคอยผลักดันอยู่”

 

การให้ปากคำของโฮล์มส์ครั้งนี้พาดพิงถึง รูดี จิวเลียนี ทนายความส่วนตัวของทรัมป์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลักดันให้สืบสวนกรณีใช้อำนาจโดยมิชอบของไบเดน

 

ในคำให้การ โฮล์มส์ยังให้รายละเอียดเกี่ยวกับการระงับเงินช่วยเหลือด้านความมั่นคงที่รัฐบาลสหรัฐฯ มอบให้ยูเครนราว 400 ล้านดอลลาร์ แต่โฮล์มส์ไม่ทราบข้อเท็จจริงแน่ชัดถึงสาเหตุที่ทรัมป์สั่งระงับเงินดังกล่าว

 

โฮล์มส์เล่าว่า ในระหว่างการประชุมนโยบายต่างประเทศครั้งหนึ่ง ซอนด์แลนด์พูดขึ้นมาว่า “แย่แล้ว รูดี ทุกครั้งที่รูดีเข้ามายุ่งเกี่ยว เขาจะทำทุกอย่างพังไปหมด” 

 

เขาให้การต่อไปว่า จอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาว เคยแสดงความไม่พอใจต่อเทย์เลอร์และทิม มอร์ริสัน เจ้าหน้าที่ในสภาความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับอิทธิพลของจิวเลียนีที่มีต่อการกำหนดนโยบายของทรัมป์ 

 

ซึ่งโบลตันกล่าวในการประชุมครั้งนั้นว่า การยกเลิกเงินช่วยเหลือขึ้นอยู่กับว่าเซเลนสกีจะทำให้ทรัมป์พอใจได้หรือไม่ โดยผู้นำทั้งสองมีกำหนดพบปะกันที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ในเดือนกันยายน แต่เนื่องจากเกิดภัยพิบัติเฮอริเคนดอเรียน ทรัมป์จึงไม่ได้เดินทางไปโปแลนด์ด้วยตนเอง แต่ได้ส่ง ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีไปแทน

 

คำให้การจากโฮล์มส์ ผู้ช่วยของเทย์เลอร์ เป็นหลักฐานมีน้ำหนักอีกชิ้นที่บ่งชี้ว่าทรัมป์พยายามดึงรัฐบาลต่างชาติมาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า ซึ่งทั้งหมดจะชัดเจนขึ้นไปอีกหลังมีการไต่สวนซอนด์แลนด์แล้ว โดยซอนด์แลนด์มีกำหนดขึ้นให้การที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ หรือ US Capitol ในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการถ่ายทอดไปทั่วประเทศ

 

สามารถอ่านข้อมูลคำให้การย้อนหลังของ วิลเลียม เทย์เลอร์ รักษาการทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศยูเครน และ จอร์จ เคนต์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายนโยบายยุโรปและยูเรเซียของสหรัฐฯ ได้ที่ thestandard.co/trump-impeachment-inquiry/

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising