เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) รายงานขาดทุนสุทธิ 810 ล้านบาทใน 3Q67 เทียบกับขาดทุนสุทธิ 1.9 พันล้านบาทใน 2Q67 และขาดทุนสุทธิ 1.6 พันล้านบาทใน 3Q66 โดยใน 3Q67 TRUE บันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยจำนวน 3.9 พันล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (หลังภาษี) จำนวน 160 ล้านบาท หากตัดรายการเหล่านี้ออกไปพบว่า TRUEมีกำไรปกติ 2.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.8%QoQ และฟื้นตัวจากขาดทุนปกติ 1.6 พันล้านบาทใน 3Q66
โดยกำไรปกติสูงกว่าคาด 36.1% เซอร์ไพรส์หลักๆ คือ ต้นทุนการให้บริการและค่าใช้จ่าย SG&A ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเป็นผลมาจาก Synergy ด้านต้นทุนที่สูงกว่าคาด TRUEระบุว่า บริษัทดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายได้เร็วกว่าที่ตั้งเป้าไว้ โดย ณ 3Q67 TRUEดำเนินการปรับปรุงโครงข่ายเสร็จสิ้นจำนวน 10,800 แห่ง เทียบกับเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ที่ 10,000 แห่งสำหรับสิ้นปี 2567
การดำเนินงานของบริษัทแข็งแกร่ง รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ (64% ของรายได้รวม) อยู่ที่ 3.27 หมื่นล้านบาท ทรงตัว QoQ แต่เติบโต 3.7%YoY การเติบโต YoY หลักๆ ได้แรงหนุนจากการแข่งขันด้านราคาที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นและรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวที่สูงขึ้น Blended ARPU อยู่ที่ 211 บาท เพิ่มขึ้น 1.9%QoQ และ 5.5%YoY โดยได้แรงหนุนจากบริการระบบเติมเงิน ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้หลักสำหรับการแข่งขันด้านราคา
จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลงมาอยู่ที่ 49.3 ล้านคนจาก 50.5 ล้านคนในไตรมาสก่อนหน้า เพราะได้รับผลกระทบจากการมุ่งเน้นการเพิ่มคุณภาพของการได้มาซึ่งผู้ใช้บริการ และการร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการป้องกันการฉ้อโกง
รายได้จากธุรกิจ FBB (13% ของรายได้รวม) อยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5%QoQ และ 7.5%YoY โดยได้แรงหนุนจาก ARPU ที่สูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 0.7%QoQ และ 9.8%YoY) และจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 23,000 คน)
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหุ้น TRUEปรับขึ้น 2.56% อยู่ที่ 12.00 บาทต่อหุ้น ขณะที่ SET Index ปรับลง 2.22% อยู่ที่ 1,455.62 จุด
แนวโน้มผลประกอบการปี 2567:
เนื่องจากกำไรปกติ 9M67 คิดเป็น 92% ของประมาณการกำไรเต็มปีที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ จึงเชื่อว่ากำไรที่ได้คาดการณ์ไว้น่าจะเป็นตัวเลขที่ยึดหลักความระมัดระวังมากเกินไป ดังนั้นจึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2567 เพิ่มขึ้น 27.6% สู่ 8.1 พันล้านบาท หลังจากปรับประมาณการต้นทุนการให้บริการลดลง 1.8% และปรับประมาณการค่าใช้จ่ายภาษีเพื่อสะท้อนตัวเลข 9M67
โดยปัจจุบัน InnovestX Research คาดว่า EBITDA จะเติบโต 15.1% สูงกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ที่ 12-14% นอกจากนี้ยังเล็งเห็นโอกาสที่ประมาณการกำไรของ Consensus จะปรับเพิ่มขึ้นหลังจาก TRUEรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งด้วย
สำหรับ 4Q67 คาดกำไรปกติแข็งแกร่งขึ้น YoY โดยได้แรงหนุนจากการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่องและการแข่งขันด้านราคาที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สำหรับ QoQ คาดการณ์ตามหลักความระมัดระวังว่ากำไรปกติจะลดลง เนื่องจากโดยปกติแล้วไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงที่มีการใช้จ่ายด้านการตลาดสูง
อย่างไรก็ดี หาก TRUEสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประมาณการจะมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ InnovestX Research มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการ 3Q67 และคาดว่าราคาหุ้นจะตอบสนองในเชิงบวก แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว YTD แต่เชื่อว่าแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นน่าจะผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังยืนยันมุมมองที่ว่าราคาหุ้นที่ย่อตัวลงจะเปิดโอกาสให้เข้าซื้อ
InnovestX Research ยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ TRUEโดยปรับราคาเป้าหมายอ้างอิงวิธี DCF ใหม่จาก 13 บาทเป็น 15 บาทต่อหุ้น (WACC 7.9% และการเติบโตระยะยาว 2%) เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น TRUEยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มสื่อสาร
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อแนวโน้มการเติบโตของรายได้ของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจ FBB ความเสี่ยงด้าน ESG ที่สำคัญสำหรับกลุ่มสื่อสารคือ ความปลอดภัยด้านไซเบอร์และการเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ (S)
อ่านบทวิเคราะห์ InnovestX Research:TRUE – สร้างเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง ได้ที่: