คลังเตรียมเสนอ ครม. ลดภาษีน้ำมันเครื่องบิน พร้อมหักค่าใช้จ่ายซ่อมโรงแรมพรุ่งนี้ หวังกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงโคโรนาระบาด และขยายเวลายื่นภาษีบุคคลปี 2562 ได้ถึง มิถุนายน 2563 ส่วนชิมช้อปใช้ 4 ยันได้เห็นก่อนสงกรานต์
อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (4 กุมภาพันธ์) กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ ครม. อนุมัติ โดยมาตรการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยทั้งผู้ประกอบการโรงแรมและผู้บริโภคด้วย รวมทั้งจะเสนอให้ ครม. พิจารณาอนุมัติ มาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน จากปัจจุบันที่จัดเก็บอยู่ที่ลิตรละ 4.726 บาทด้วย
ทั้งนี้เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และงบประมาณปี 2563 ที่ล่าช้า ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจด้วย
สำหรับมาตรการท่องเที่ยวเบื้องต้น จะเป็นมาตรการหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ปรับปรุงสถานประกอบการ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้ขยายตัวได้ดีขึ้น
“จะมีทั้งฝั่งอุปสงค์ที่กระตุ้นให้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อการท่องเที่ยว และฝั่งอุปทานคือโรงแรมต่างๆ ให้หันมาปรับปรุงธุรกิจ ซ่อมแซม ส่วนภาษีน้ำมันเครื่องบิน ก็จะเข้า ครม. ด้วย แต่รูปแบบเป็นอย่างไรต้องให้ ครม. พิจารณาก่อน” อุตตมกล่าว
นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังจะเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายได้สำหรับเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปอีก 3 เดือน จากเดิมที่กำหนดให้ต้องยื่นภายในวันที่ 31 มีนาคม เป็นมิถุนายนแทน เพื่อให้ประชาชนที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่มยังคงมีเงินในกระเป๋าเพียงพอต่อการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งนับเป็นการชดเชยผลกระทบจากความล่าช้าของการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 และปัจจัยภายนอกจากโรคระบาดไวรัสโคโรนา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังจะยังไม่เสนอมาตรการชิมช้อปใช้ 4 ในการประชุม ครม. ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากจะต้องรอระยะเวลาที่เหมาะสมก่อน ซึ่งกระทรวงการคลังติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยยืนยันจะเห็นมาตรการดังกล่าวก่อนเทศกาลสงกรานต์แน่นอน
ด้านการยกเลิกการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีนจะกระทบเศรษฐกิจโดยรวมหรือไม่ คงต้องรอข้อมูลจากภาคการท่องเที่ยว แต่เท่าที่เห็นขณะนี้คือยังเหมือนเดิม ส่วนกรณีบลูมเบิร์กจะปรับลด GDP ไทยลง ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สถาบันการเงิน และภาคเอกชนต่างๆ มาโดยตลอด ดังนั้นจึงพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
รายงาน: ภัทราภรณ์ เกียรตินันท์
เรียบเรียง: สุรเมธี มณีสุโข
ติดตามข่าวสารการลงทุนเพิ่มเติมได้ที่: www.efinance.com
