Toyota Motor รายงานยอดขายรถยนต์ได้ 10.5 ล้านคันในปี 2022 ทำให้สามารถป้องกันตำแหน่งบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงที่สุดของโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันได้เป็นผลสำเร็จ
ทิศทางของยักษ์จากญี่ปุ่นถือว่าสวนทางกับ Volkswagen คู่แข่งจากเยอรมนีที่มียอดขายลดลง 7% ในปีที่แล้วเหลือ 8.3 ล้านคัน ซึ่งเป็นระดับการส่งมอบที่ต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี อันมีสาเหตุมาจากการปิดเมืองในจีนและสงครามในยูเครน ทำให้ซัพพลายเชนหยุดชะงัก
กระนั้นสิ่งที่ทั้ง Toyota และ Volkswagen ตลอดจนผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ต้องเผชิญก็คืออุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอลงและความกังวลเกี่ยวกับความอยากซื้อรถยนต์ใหม่ที่ลดลงได้ทวีความรุนแรงขึ้น จนทำให้บริษัทต่างๆ กำลังปลดพนักงาน เพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เปิดประวัติ โคจิ ซาโตะ ผู้รับตำแหน่ง CEO คนใหม่ Toyota หลังรับไม้ต่อจาก อากิโอะ โตโยดะ พร้อมย้ำอย่าพยายามเป็นเหมือนผม
- อากิโอะ โทโยดะ ซีอีโอ Toyota Motor เตรียมลงจากตำแหน่ง 1 เม.ย. นี้ เปิดทาง Koji Sato เข้ามาสานต่อ
- ยอมไม่ได้! Toyota วางแผนปรับกลยุทธ์รถยนต์ไฟฟ้าให้กับ ‘ซัพพลายเออร์’ หวังลดช่องว่างราคาและประสิทธิภาพเพื่อแข่งกับ Tesla และ BYD
อย่างไรก็ตาม Toyota ยังคงกล่าวว่า ไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้มากพอที่จะย่นระยะเวลาการส่งมอบ หลังลูกค้าหลายรายบอกว่าต้องรอรถเป็นเดือนหรือเป็นปีสำหรับรถบางรุ่น
ในปีงบประมาณใหม่ที่เริ่มต้นเดือนเมษายน 2023 Toyota ตั้งเป้าหมายการผลิตไว้มากถึง 10.6 ล้านคัน โดยมีข้อแม้ว่าการจัดส่งจริงอาจลดลง 10% หากไม่สามารถจัดหาชิ้นส่วนได้เพียงพอ โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์
Toyota กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ 86 ปี เพราะการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติ
แต่ยักษ์จากแดนซามูไรกล่าวว่า ยังเชื่อมั่นในความจำเป็นของการกระจายเดิมพันไปยังเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่แบตเตอรี่ รถยนต์ไฮบริด ไฮโดรเจน และเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิม เพื่อให้บริการลูกค้าและประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตหลังการใช้น้ำมันเบนซิน
อ้างอิง: