ปี 2021 นับได้ว่าเป็นปีทองของ NFT ที่ไม่ว่าอะไรก็เอามาขายเป็นผลงาน NFT ได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด, วิดีโอ, เพลง, ภาพเซลฟี, แฟชั่น, AR หรือที่ดิน ฯลฯ แต่ในตลาดที่กว้างขวางอย่างไร้ขอบเขตนี้ยังมี NFT อีกหลายชิ้นที่ดูไม่น่าจะเอามาเป็น NFT ได้ เพราะความแปลกประหลาดคาดไม่ถึง แต่สุดท้ายก็มียอดขายสูงแซงอันอื่นๆ ไปอย่างเหลือเชื่อ เราเลยอยากชวนคุณมาสำรวจ 5 อันดับ NFT สุดแปลกแหวกแนวชนิดที่เรียกได้ว่าแปลกกว่านี้คงไม่มีอีกแล้ว (อย่างน้อยก็ ณ เวลานี้)
- ก้อนหิน EtherRock
ใครจะไปคิดว่าภาพก้อนหินธรรมดาๆ ก้อนหนึ่ง จะมีมูลค่าสูงถึง 900 ETH หรือราวๆ 99.7 ล้านบาท ก้อนหินที่แพงที่สุดในโลกนี้คือ EtherRock #55 หนึ่งใน NFT ของคอลเล็กชันก้อนหินหลากสีที่มีเพียง 100 ชิ้น ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาในปี 2017 เป็นคอลเล็กชัน NFT แรกๆ ของโลกที่มาหลังโปรเจกต์ในตำนานอย่าง CryptoPunks ไม่นาน ด้วยราคาที่สูงลิ่วขนาดนี้ก็ทำให้ราคาหินก้อนอื่นๆ ขยับไปอยู่ในราคาที่สูงถึง 321 ETH หรือประมาณ 35 ล้านบาท แม้มูลค่าของ EtherRock จะมากกว่าคฤหาสน์สุดหรู 2 หลัง แต่ก้อนหินดิจิทัลนี้ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรทั้งนั้นนอกจากเก็บสะสมและขายทำกำไร
ภาพ: www.cnbc.com
- McRib
นอกจากสิ่งของแล้ว NFT ก็มาในรูปแบบของกิน เมื่อ McDonald’s ปล่อย McRib NFT ออกมาเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแบรนด์ แต่ NFT เมนูนี้ไม่ได้มีมูลค่าแต่อย่างใด เพราะ McDonald’s ทำออกมาสำหรับผู้โชคดีส่วนน้อยที่กดติดตามเพจ Twitter แต่ทำไมถึงต้องเป็น McRib ด้วย เป็นเฟรนช์ฟรายส์ไม่ได้หรือ? สาเหตุที่แท้จริงก็คือ ตั้งแต่ปี 1981 McDonald’s ทำเมนูนี้ออกมาขายนานๆ ที แบบคาดเดาไม่ได้ การกลับมาของ McRib ในแต่ละครั้งจึงเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ทำให้สำนักข่าวอเมริกาทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็น ABC News, The Atlantic, The New York Times และสำนักอื่นๆ กระจายข่าวแบบพลาดไม่ได้ เพราะเมนูนี้มีคนติดตามเหมือนลัทธิเลยก็ว่าได้ ผู้ที่ได้ครอบครอง McRib NFT จึงไม่จำเป็นต้องบอกลาเมนูนี้อีก เพราะมีไว้เป็นของส่วนตัวแล้วนั่นเอง
ภาพ: nypost.com, cityroom.blogs.nytimes.com
- ชื่อต่างๆ
ชื่อเรียกก็มีการซื้อขายเป็น NFT เหมือนกัน เพราะในตลาด OpenSea ก็มีร้านขายชื่ออย่าง Decentraland, ENS (Ethereum Name Service), Unstoppable Domains และอีกหลายเจ้าที่ขายชื่อเว็บไซต์ ชื่อโดเมน รวมทั้งชื่ออวตารในเกม เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเป็นเจ้าของชื่อนั้นได้อย่างแท้จริง โดยไม่มีใครสามารถใช้ซำ้ เซ็นเซอร์ หรือเอาออกได้ เป็นการแก้ปัญหาที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ชื่อต่างๆ ที่ถูกลงท้ายด้วย .eth, .crypto, .nft ฯลฯ ยังสามารถใช้เป็นลิงก์สำหรับกระเป๋าคริปโตของเราที่ใครๆ ก็หาเจอได้ใน Etherscan แทนที่จะเป็นโค้ดปกติที่มีความยาวและซับซ้อน ล่าสุดชื่อโดเมนที่ขายได้แพงที่สุด ได้แก่ win.crypto จบที่มูลค่า 1 แสนดอลลาร์ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท จาก Unstoppable Domains
ภาพ: finance.yahoo.com, www.coindesk.com
- Non-Avatar Generative Art
คอนเซปต์นี้ถือเป็นสิ่งแปลกใหม่มาก เพราะเป็นการเขียนโค้ดเพื่อใช้อัลกอริทึมสร้างงานศิลปะขึ้นมาอีกที หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Non-Avatar Generative Art ซึ่งแพลตฟอร์มที่ครองตลาดอยู่ตอนนี้คือ Art Blocks ที่ประกอบไปด้วยหลากหลายคอลเล็กชันจากศิลปินที่ถูกคัดเลือกมาแล้ว โดยที่ทุกคนต้องเขียนโค้ดเพื่อสร้างงานออกมา และการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเทคโนโลยีกับศิลปะนี้เองทำให้โปรเจกต์นี้เป็นที่นิยมมาก จนมีมูลค่าซื้อขายทั้งหมดอยู่ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท โดยงานที่ขายได้มากที่สุดคือ Ringers 109 ขายไปได้ในราคา 2,100 ETH หรือราว 228 ล้านบาท
ภาพ: www.businessinsider.in, decrypt.co
- ป้ายหลุมศพ Remember
เมื่อเทคโนโลยีกำลังแทรกซึมเข้ามาในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่โลกแห่งความตาย เพราะป้ายหลุมศพในรูปแบบ NFT ได้เกิดขึ้นแล้ว โดยโปรเจกต์ที่ชื่อ Remember ได้สร้างคอลเล็กชันป้ายหลุมศพดีไซน์สุดล้ำไม่ซำ้กันจำนวน 5,000 ชิ้น เพื่อให้เราสามารถรำลึกถึงผู้ที่จากไปเมื่อไรก็ได้ในโลกดิจิทัล ด้วยรูปแบบของวิดีโอ ภาพ เสียง และสิ่งของต่างๆ ซึ่งป้ายหลุมศพแต่ละอันจะถูกตั้งไว้บนที่ดินซึ่งทางทีมงานได้ซื้อไว้ใน Metaverse
การสร้างอนุสรณ์ให้คนที่เรารักในรูปแบบนี้ อาจเป็นการเก็บเกี่ยวความทรงจำที่ยั่งยืนที่สุดทางหนึ่งก็ได้ เพราะป้ายหลุมศพที่มาจากโค้ดจะไม่มีวันร่วงโรยหรือถูกเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ภาพ:nftplazas.com, nftevening.com
ภาพ: Courtesy of Brand
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต