สำนักข่าว CNBC รายงานว่า การประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากทั่วโลกของ โดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะดันให้ราคาสินค้าหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาสินค้าบางประเภทเช่น เครื่องหนัง อาจดีดตัวสูงหนักกว่าสินค้าอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ผลกระทบต่อภาคครัวเรือนนั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการจับจ่ายของแต่ละครอบครัว แต่หากมองในภาพใหญ่จะเห็นว่าหลายครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อยจะได้รับผลกระทบในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
บทวิเคราะห์ของ Budget Lab จาก Yale University ระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละครัวเรือนจะสูญเสียอำนาจซื้อราว 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี (ประมาณ 131,213 บาท) อันเป็นผลจากนโยบายภาษีของทรัมป์ และนโยบายตอบโต้ของประเทศต่างๆ ที่ออกมาในช่วงนี้ พร้อมหมายเหตุด้วยว่า การวิเคราะห์ข้างต้นยังไม่ได้รวมภาษีตอบโต้ 34% ที่จีนเพิ่งประกาศใช้กับสินค้าส่งออกทั้งหมดของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 เมษายนนี้
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าของสหรัฐฯ ไปยังจีนในปี 2024 อยู่ที่เกือบ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ โดยจีนถือเป็นตลาดส่งออกใหญ่เป็นอันดับ 3 ของสหรัฐฯ รองจากแคนาดาและเม็กซิโก
ที่น่าสังเกตคืออุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีสูง โดยคาดการณ์ว่าราคาเสื้อผ้า รองเท้า ถุงมือ กระเป๋าถือ ผ้าขนสัตว์ และผ้าไหม จะเพิ่มขึ้นราว 10-20% อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนคาดการณ์ว่าการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าบางประเภทจะไม่ได้เป็นไปแบบปุ๊บปั๊บ อาจใช้เวลา 5 ปีหรือมากกว่านั้นจึงจะเกิดขึ้น โดยเสื้อผ้าและรองเท้าส่วนใหญ่ที่ขายในสหรัฐฯ ผลิตขึ้นในประเทศจีน เวียดนาม ศรีลังกา และบังกลาเทศ ที่ต่างก็โดนภาษีตอบโต้สูงจากทรัมป์
นอกจากนี้ Budget Lab ยังวิเคราะห์ด้วยว่า ราคายานยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์อาจพุ่งสูงขึ้นกว่า 8% ส่วน Bank of America ประมาณการว่าราคารถใหม่อาจเพิ่มขึ้นถึง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 345,299 บาท) หากผู้ผลิตรถยนต์เลือกให้ผู้บริโภคต้องแบกรับผลกระทบทั้งหมดจากนโยบายภาษีตอบโต้
และนี่คือ 20 อันดับสินค้าโภคภัณฑ์ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบสูงสุด เรียงจากมากไปน้อย
- ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง: ราคาเพิ่ม 18.3%
- เครื่องแต่งกาย: ราคาเพิ่ม 16.9%
- พืชผล: ราคาเพิ่ม 13.3%
- โลหะ: ราคาเพิ่ม 12.3%
- ขนสัตว์/ไหม: ราคาเพิ่ม 10.9%
- ข้าวแปรรูป: ราคาเพิ่ม 10.3%
- เครื่องใช้ไฟฟ้า: ราคาเพิ่ม 10%
- สิ่งทอ: ราคาเพิ่ม 9.6%
- ยานยนต์และส่วนประกอบ: ราคาเพิ่ม 8.4%
- เครื่องจักรและอุปกรณ์: ราคาเพิ่ม 6.6%
- โลหะเหล็ก/เหล็กกล้า: ราคาเพิ่ม 6.5%
- ผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก: ราคาเพิ่ม 6.4%
- ผลิตภัณฑ์จากแร่ (แก้ว ซีเมนต์ คอนกรีต): ราคาเพิ่ม 6.4%
- อุปกรณ์ภาคการขนส่ง (รถจักรยานยนต์ จักรยาน): ราคาเพิ่ม 6%
- ผลิตภัณฑ์จากโลหะ (ช้อนส้อม นอตและโบลต์ สกรู ฯลฯ): ราคาเพิ่ม 5.8%
- อุตสาหกรรมการผลิต (เครื่องประดับ อุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ): ราคาเพิ่ม 4.8%
- คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ + อุปกรณ์ออปติก: ราคาเพิ่ม 4.5%
- การประมง: ราคาเพิ่ม 4%
- ผัก ผลไม้ ถั่ว: ราคาเพิ่ม 4%
- ผลิตภัณฑ์จากไม้: ราคาเพิ่ม 3.3%
อ้างอิง: