×

Titans ซีรีส์น้องใหม่จาก DC ที่จะพาคุณเข้าสู่จักรวาลความโหดอย่างเต็มรูปแบบ

16.01.2019
  • LOADING...

หลังจาก Aquaman ประสบความสำเร็จอย่างสูงในรูปแบบภาพยนตร์ เหล่าโปรเจกต์ซูเปอร์ฮีโร่ฝั่งจักรวาล DC ก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง คราวนี้ถึงเวลาของ Titans ที่นำโดยแก๊ง Teen Titans ซูเปอร์ฮีโร่สุดแนวที่โด่งดังจากเวอร์ชันคอมิกและแอนิเมชัน และนี่คือครั้งแรกที่แฟนๆ จะได้รับชมเรื่องราวของพวกเขาในรูปแบบ Live Action จำนวน 11 ตอนผ่าน Netflix ที่เดียวเท่านั้น

 

Teen Titans นับว่าเป็นกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ที่มีประวัติยาวนานหลายสิบปี เริ่มปรากฏตัวครั้งแรกในช่วงปี 60s ในซีรีส์ Brave and the Bold เล่มที่ 54 โดยมีสมาชิกในทีมเพียงแค่ 3 คน ได้แก่ โรบิน คิดแฟลช และอควาแลด และเริ่มใช้ชื่อ Teen Titans เป็นครั้งแรกใน Brave and the Bold เล่มที่ 60 โดยมีสมาชิกในทีมเพิ่มมาอีก 1 คน คือ วันเดอร์เกิร์ล แล้วหลังจากนั้นก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงสมาชิกในทีมอยู่เรื่อยๆ ในแต่ละยุคสมัย

 

 

แต่ถ้าพูดถึงเวอร์ชันที่ติดตาคนดูในยุคนี้มากที่สุดก็คงจะเป็น Teen Titans ในรูปแบบการ์ตูนแอนิเมชันที่ฉายในช่อง Cartoon Network เมื่อปี 2003 มีสมาชิกในทีม 5 คนได้แก่ โรบิน, บีสต์บอย, สตาร์ไฟร์, ไซบอร์ก และเรเวน และยังทำเวอร์ชันสำหรับเด็กๆ อย่าง Teen Titans Go! ซึ่งเนื้อเรื่องก็จะมีความน่ารักๆ เหมาะสำหรับเด็กยิ่งขึ้นไปอีก

 

พอเป็นเวอร์ชันซีรีส์ ก็ถึงเวลาแล้วที่ทีมงาน DC ได้ปลดเปลื้องข้อจำกัดของเนื้อหาที่ต้องเอาใจเด็กๆ ออกไปเกือบทั้งหมด ที่พอจะเดาได้ตั้งแต่การตัดคำว่า Teen ออกไปจากชื่อเดิม เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะได้เห็นกันแน่ๆ จากเวอร์ชันนี้คือ ตัวละครที่มีความคิดเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และนั่นรวมไปถึงเนื้อหา คำพูด และฉากต่อสู้ที่มีความดาร์ก ความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

 

Titans ในเวอร์ชันที่เรากำลังจะได้ชมจะพูดถึงสมาชิกเพียง 4 คนคือ เรเวน โรบิน บีสต์บอย และสตาร์ไฟร์ โดยเนื้อเรื่องหลักๆ จะถูกเล่าโดยมี เรเวน (รับบทโดย ทีแกน ครอฟต์) ซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังมืดแฝงอยู่ในตัวเป็นศูนย์กลาง ในฐานะกุญแจสำคัญที่ทุกฝ่ายต่างต้องการตามล่าตัวเธอ โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่ความสนุกของเรื่องนอกจากฉากแอ็กชันที่ปล่อยออกมาเป็นระยะ คือการค่อยๆ เผยให้คนดูรู้ถึงต้นกำเนิดพลังอันแสนร้ายกาจของเธอทีละน้อย รวมทั้งเหตุผลที่ว่าเธอมีผลกระทบกับโลกอย่างไร เหตุใดทุกคนถึงต้องการตัวเธอมากขนาดนี้

 

โดยมี โรบิน (รับบทโดย เบรนตัน ทเวทส์) ที่ออกจากร่มเงาของแบทแมนที่เปรียบเสมือนอาจารย์และคู่หูคนสำคัญออกมามีพื้นที่ของตัวเอง คอยให้ความช่วยเหลือเรเวนอย่างใกล้ชิด ซึ่งความน่าสนใจอีกอย่างคือ เราจะได้เห็นการแฟลชแบ็กถึงอดีตในวัยเด็กของโรบิน รวมทั้งปมปัญหาในใจที่ติดค้างกับแบทแมนออกมาให้เห็นกันด้วย

 

ส่วน บีสต์บอย (รับบทโดย ไรอัน พอตเตอร์) ยังคงทำหน้าที่ในการเรียกรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวละครนี้ตั้งแต่ในแอนิเมชันไว้เป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นตัวละครที่ช่วยบาลานซ์ให้เกิดความผ่อนคลายไม่ให้เนื้อเรื่องเครียดและดาร์กจนเกินไปได้ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว

 

คนสุดท้ายคือ สตาร์ไฟร์ ที่น่าสนใจมากๆ ตั้งแต่วันแรกที่ DC ประกาศว่าได้เลือกนักแสดงผิวสี แอนนา ดิออฟ มารับบทนี้ และเกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงทันที เพราะไม่ตรงกับคาแรกเตอร์เดิมของตัวละคร แต่ถ้าเปิดใจดูกันจริงๆ จะเห็นได้เลยว่า นี่คือสตาร์ไฟร์ในเวอร์ชันผิวสีที่เท่สุดๆ ทั้งบุคลิก หน้าตา อารมณ์ที่แสดงออกมาผสานกันเปลวเพลิงอันร้อนแรงที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเธอ

 

มองภาพรวมถือว่า Titans เป็นซีรีส์ที่สนุกในระดับที่ดูได้แบบเพลินๆ อาจจะมีช่วงครึ่งแรกที่ดูเอื่อยๆ และบางคนอาจจะไม่ชินกับการตัดสลับเรื่องในปัจจุบันและอดีตบ่อยเกินไปหน่อย แต่ก็นับว่าเป็นเจตนาที่ดีในการปูพื้นฐานให้คนดูอินไปกับตัวละครทุกตัวได้มากขึ้น ก่อนที่เนื้อเรื่องและการต่อสู้จะเข้มข้นขึ้นในช่วงครึ่งหลัง


ส่วนฉากต่อสู้อาจจะมีน้อยกว่าที่บางคนคาดหวัง และบางฉากก็อาจจะดูขาดๆ เกินๆ ไปอยู่บ้าง แต่ในเรื่องความรุนแรงและความสะใจในฐานะหนังซูเปอร์ฮีโร่สายดาร์ก ถึงขนาดที่ Netflix กำหนดเรตของผู้ชมไว้ที่ 16+ ก็นับว่า DC ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้ดีเลยทีเดียว

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising