คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเชฟ มักจะได้รับความคาดหวังจากผู้คนว่า เขาจะต้องทำอาหารอร่อย หน้าตาอาหารคงจะสวยงามและความประทับใจหลังจากได้ลิ้มรสฝีมือของเชฟ ก็คงจะติดตรึงอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน และก็ใช่! มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากที่ผู้เขียนได้มีโอกาสพบเจอกับ เชฟปิง-สุรกิจ เข็มแก้ว ผู้ได้ฉายาว่าเป็นเชฟ ‘กระทะหล่อ’ อันเนื่องมาจากรูปร่างหน้าตาที่เข้าข่ายจะกุมหัวใจสาวๆ ได้ไม่ยาก วันที่ THE STANDARD ได้เจอกับเขา เป็นวันที่เขามาโชว์ฝีมือการครีเอตเมนูขนมหวานในงานเปิดตัวน้ำหอม Dior Rouge Trafalgar ที่ Maison Christian Dior ไอคอนสยาม เขาบอกว่า ขนมทั้ง 3 ชนิด เกิดจากแรงบันดาลใจที่มาจากตัวน้ำหอมเอง ประกอบด้วยสีแดง และนำเอาฟรุตตี้ทั้งจากรสเบอร์รี สตรอว์เบอร์รี และแบล็กเคอร์แรนต์ มาสร้างสรรค์ จนกลายเป็นขนมที่น่าทานและแฝงไว้ซึ่งความอร่อยเต็มคำ นอกจากความอร่อยที่เราได้ลิ้มลองแล้ว ยังถือโอกาสนี้สืบเคล็ดลับการทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี รวมถึงวิธีออกกำลังกายคุมรูปร่างเป๊ะ ซึ่งเป็นวิธีส่วนตัวของเชฟที่ไม่ค่อยได้บอกใคร ทั้งหมดรวมอยู่ในบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้แล้ว 

เทรนด์อาหาร Healthy ปีนี้อะไรอิน อะไรเอาต์

เชฟปิง: อาหาร Healthy หรือว่าอาหารเพื่อสุขภาพในปีนี้ ผมคิดว่า Clean Food เอาต์ไปแล้วนะครับ เพราะคนเริ่มรู้สึกว่า Clean Food มันเกร่อด้วย แล้วคนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถทำเป็น Routine ได้ทุกวัน บางคนกินแล้วรสชาติไม่ได้ ก็ไม่อยากจะกินต่อ ปีนี้ผมเลยรู้สึกว่า การหาบาลานซ์เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เราต้องรู้ว่าเราต้องกินอะไร เป้าหมายที่กินเข้าไปในร่างกายเพื่ออะไร ต้องเข้าใจว่าร่างกายตัวเองต้องการอะไร อย่างเช่น ร่างกายต้องการแม็กโครหรือประเภทของสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน เราแค่ต้องโฟกัสว่า ร่างกายกินโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก ไขมันเป็นรอง เพื่อที่จะสร้างกล้ามเนื้อ บวกกับให้พลังงาน ส่วนวิตามินและส่วนอื่นๆ อยู่ที่ผลไม้และผักที่เรากินเข้าไป แน่นอนว่าอาหารที่เน้นบาลานซ์เป็นหลัก น่าจะเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรสชาติก็ดี มันอาจจะไม่ใช่อาหารที่คลีนมาก มันอาจจะเป็นอาหารที่มีรสชาติ แต่เราสามารถทานได้ทุกวัน โดยไม่รู้สึกว่าต้องฝืน ซึ่งจะต่างจากตอนกิน Clean Food ซึ่งผมว่า อาหารที่บาลานซ์มันก็คืออาหารทั่วไปนี่แหละครับที่เรารู้ว่า เราจะต้องเลือกกินอะไรที่สร้างประโยชน์ต่อร่างกายสูงสุดเท่านั้นเอง อันนี้ผมสังเกตได้จากเพื่อนๆ คนใกล้ตัว คนในฟิตเนส รวมถึงคนที่ดูแลสุขภาพมากๆ ปีนี้ เขาเน้นอาหารที่บาลานซ์เป็นหลัก เขาจะไม่ได้กิน Clean Food เหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะเทรนด์กินคลีนมันเคยพีกสุดช่วงปีสองปีที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ค่อยๆ ดร็อปลง  

คุณมองว่าคนไทยเข้าถึงอาหารสุขภาพกันมากน้อยแค่ไหน

เชฟปิง: ผมมอง 2 มุมนะครับ คือมุมของคนทั่วไป กับคนที่มีกำลังทรัพย์ ซึ่งกลุ่มคนที่มีกำลังทรัพย์เนี่ยผมมองว่า เขาเป็นกลุ่มคนที่สามารถกินอาหารแนวสุขภาพเป็นปกติกันอยู่แล้ว เขาเลือกที่จะกินได้ เขามีกำลังที่จะจับจ่ายใช้สอย เลือกอาหารที่ดีได้ เพราะต้องยอมรับว่า อาหารเพื่อสุขภาพมันก็คือของดีๆ ทั้งนั้นนะครับ และความจริงคือ อาหารหรือวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพส่วนใหญ่จะมีราคาแพง ส่วนคนที่ไม่ค่อยมีกำลังทรัพย์ ก็ต้องใส่ใจและรู้จักเลือกกินสิ่งที่ดีที่สุดต่อร่างกาย ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้วัตุดิบหรือเลือกของแพงมาก แค่รู้จักซื้อ รู้จักเลือกมากขึ้น ก็สามารถช่วยให้ได้กินอาหารสุขภาพได้เหมือนกันครับ 

กินอาหารอย่างไรให้สุขภาพดีทั้งต่อร่างกายและผิวพรรณ

เชฟปิง: การทานอาหารเพื่อให้มีสุขภาพดีต่อร่างกาย ผมแนะนำว่า ร่างกายคนเราต้องการแม็กโครเป็นหลักในการให้พลังาน แต่ส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม หรือวิตามินก็สำคัญ โดยปกติร่างกายคนเราต้องการอาหาร 5 หมู่ ใช่ไหมครับ 3 หมู่แรกคือแม็คโครที่มีความสำคัญ อีก 2 หมู่คือแคลเซียมกับวิตามิน มันคือส่วนน้อยที่สำคัญกับร่างกาย อย่างตัวผมเอง ผมจะให้ความสำคัญกับวิตามินบีที่บำรุงสมอง และพวกวิตามินซีที่บำรุงผิว แต่ผมจะไม่ใช้วิธีกินวิตามินนะครับ แต่ผมจะเน้นรับวิตามินเหล่านี้จากส้มหรือตระกูลเบอร์รี ซึ่งจะมีวิตามินเยอะมากๆ มันคือการบาลานซ์นะครัล ถ้าเราเลือกกินอย่างเหมาะสมและถูกทาง ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือผิวพรรณ ก็จะสุขภาพดี

อยากให้แนะนำอาหารสำหรับหนุ่มสาวคนเมืองที่มีชีวิตเร่งรีบ

เชฟปิง: ผมอิงจากตัวผมเองแล้วกันนะครับ ตอนเช้าผมจะกินพวกไข่กับขนมปังง่ายๆ โดยไม่ต้องผ่านกรรมวิธีอะไรมากมาย ผมจะต้มไข่ไว้สัก 6 ฟอง แล้วไปอาบน้ำ พออาบเสร็จผมจะได้ไข่ต้ม 6 ฟอง เอาไข่แดงออก 4 ฟอง จะเหลือไข่ต้มเต็มใบ 2 ฟองและไข่ขาว 4 ฟอง ผมจะกินคู่กับขนมปังทาด้วยเนยถั่ว เป็นเมนูที่ด่วนและอร่อยสำหรับผม ซึ่งบางคนอาจจะเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่นแทนเนยถั่วก็ได้นะ เช่น เปลี่ยนเป็นแยมเพื่อให้ทานง่ายขึ้น อาจจะมีผักหรือผลไม้เสริมนิดหน่อยในมื้อเช้า เพราะคนเมืองเวลาในการเตรียมอาหารเช้ามันน้อยอยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องเน้นอะไรที่ทำได้เร็ว พอถึงมื้อเที่ยงผมจะทานอะไรก็ได้ครับ เต็มที่ได้ครับ แต่คำว่าเต็มที่ของผมคือ คุณต้องรู้ว่าคุณจะทานอะไร ทานเข้าไปแล้วอะไรที่มันสามารถสะสมแล้วไม่ดี ก็ทานน้อยๆ หน่อย เช่น น้ำตาล แป้ง พวกนี้ ถ้าใครเป็นหนุ่มสาวออฟฟิศนั่งติดโต๊ะนานๆ ไม่จำเป็นต้องกินแป้งเยอะ ควรเน้นโปรตีนและผัก ถ้าใครอยากมีวันปล่อยตัวหรือ Cheat Day ก็อาจจะมีแค่ 1 มื้อ ใน 1 สัปดาห์ ส่วนมื้อเย็น ถ้าเป็นคนออกกำลังตอนเย็น ผมแนะนำให้กินแบบมื้อเที่ยง เพราะว่าหลังจากการออกกำลังกาย เรามีการใช้พลังงานไปเยอะ ดังนั้น เราต้องใช้อาหารเหล่านี้เพื่อไปหล่อเลี้ยงร่างกาย แต่ถ้าเรากินน้อยเกินไป ร่างกายมันจะไปดึงเอาพวกกล้ามเนื้อมาย่อย ถ้าบางคนที่มีไขมันเยอะแล้วกินน้อย มันจะทำให้เหี่ยว แต่ระหว่างวัน ถ้ารู้สึกว่าหิว ให้ทานกล้วยหรือถั่วได้นะครับ

ขอเคล็ดลับการลดน้ำหนักตอนเช้าตามวิธีส่วนตัวของเชฟปิง

เชฟปิง: ตอนเช้าผมจะติดดื่มน้ำไซส์ประมาณ 250 มิลลิลิตร ดื่มเข้าไปเพื่อให้ร่างกายตื่นตัว จากนั้นก็จะไปฟิตเนส ผมมีเคล็ดลับนะครับ ใครที่กำลังโฟกัสไปที่การลดน้ำหนัก วิธีส่วนตัวของผมคือ ‘ต้องท้องว่าง’ โดยที่ไม่ต้องกินอะไรเข้าไปเลย อาจจะแค่ดื่มน้ำเปล่า 1 ขวด บวกกับกาแฟดำสักแก้ว เพื่อให้ร่างกายตื่นตัว จากนั้นไปออกกำลังกายตอนท้องว่าง ร่างกายจะดึงเอาไขมันหรือสารอาหารสะสมที่ร่างกายย่อยไม่หมด มาเปลี่ยนเป็นพลังงาน มันเลยทำให้น้ำหนักตัวผมคงที่เพราะใช้วิธีนี้ ปัจจุบันผมหนัก 83 กิโลกรัม น้ำหนักอาจจะมีสวิงขึ้นลง แต่ไม่เกินครึ่งกิโลกรัม เพราะผมใช้เทคนิคนี้เลยครับ 

สภาพ: Courtesy of Dior, @chefping_surakit/ Instagram 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล