ช่วงที่ผ่านมาเรียกได้ว่าเป็นปีทองของ Timothée Chalamet เพราะเขามีผลงานภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์กับ Warner Bros. ถึง 2 เรื่อง ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในเวลาไม่ห่างกันมากนัก
นั่นคือ Wonka และ Dune: Part Two นอกจากนั้นเขายังมีผลงานการแสดงหนังนอกกระแสอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ซึ่งความนิยมที่เขาได้รับบวกกับฝีมือการแสดงที่พัฒนาขึ้นอย่างน่าจับตามองก็ส่งผลให้ Timothée Chalamet ได้เซ็นสัญญาระยะเวลาหลายปีกับ Warner Bro. สำหรับทั้งการแสดงและการโปรดิวซ์โปรเจกต์มากมายกับทางบริษัทในอนาคต
ประธานและผู้บริหารแห่ง Warner Bros. ได้เผยความประทับใจที่มีต่อ Timothée Chalamet ว่า “ตลอดระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้ชื่นชมแค่ความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานของ Timothée ซึ่งปรากฏให้เห็นในการรับบทที่หลากหลายของเขาเท่านั้น แต่เรายังชื่นชมความทุ่มเทกับการมอบเวลาและการใส่ใจแบบ 100% กับทุกโปรเจกต์ที่เขาทำร่วมกับ Warner Bros. และทุกๆ ที่ การที่ได้ร่วมแคมเปญโปรโมต Dune และ Wonka กับเขา เป็นสิ่งที่เราสนุกมาก และผลที่ออกมาก็บ่งบอกชัดเจนอยู่แล้ว”
แม้จะเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะนักแสดงเจ้าบทบาท แต่ที่จริงแล้ว Timothée Chalamet ยังทำหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์สำหรับหนังเรื่อง Bones and All ในปี 2022 รวมไปถึงภาพยนตร์ชีวิตของ Bob Dylan เรื่อง A Complete Unknown ที่เขากำลังถ่ายทำอยู่ขณะนี้ ซึ่ง Timothée Chalamet ก็จะมีโปรเจกต์ทั้งการแสดงและโปรดิวซ์กับ Warner Bros. ในอนาคต โดยในข้อตกลงนั้นเขาจะยังมีอิสระในการทำงานร่วมกับสตูดิโอแห่งอื่น แต่ Warner Bros. จะเป็นที่แรกที่ได้รับรู้ถึงโปรเจกต์ต่างๆ ของเขา
Timothée Chalamet พิสูจน์ตัวเองในฐานะนักแสดงภาพยนตร์ที่สามารถกวาดรายได้จาก Box Office กับผลงานที่ทำร่วมกับ Warner Bros. ทั้ง 2 เรื่อง โดย Wonka กวาดรายได้ทั่วโลกไป 632 ล้านดอลลาร์ ตามมาด้วย Dune: Part Two ที่ขณะนี้กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 575 ล้านดอลลาร์ และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เขาขึ้นแท่นเป็นนักแสดงคนแรกในรอบ 4 ทศวรรษ ที่มีผลงานกวาดรายได้สูงสุดถึง 2 เรื่องภายในระยะเวลา 8 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าด้วยผลงานเหล่านี้ Timothée Chalamet ก็จะมีค่าตัวที่สูงขึ้นสำหรับการรับบทนำในภาพยนตร์เรื่องต่อๆ ไป
ภาพ: James Devaney / GC Images
อ้างอิง: