×

เปิดไทม์ไลน์กองทัพเมียนมายึดอำนาจ-คุมตัว ออง ซาน ซูจี และผู้นำรัฐบาล ท่ามกลางวิกฤตการเมือง

01.02.2021
  • LOADING...
เปิดไทม์ไลน์กองทัพเมียนมา

วันนี้ (1 กุมภาพันธ์) สิ่งที่หลายๆ ฝ่ายหวาดวิตกเกี่ยวกับกระแสข่าวกองทัพเมียนมาอาจยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของ ออง ซาน ซูจี (ผู้นำทางพฤตินัย) สืบเนื่องจากปมขัดแย้งการเลือกตั้งก็ได้เกิดขึ้นจริง เมื่อทหารได้เข้าควบคุมตัว ออง ซาน ซูจี พร้อมด้วยประธานาธิบดี วิน มินต์ และรัฐมนตรีอีกหลายคนในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พร้อมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี และตั้ง มิน ส่วย รองประธานาธิบดี ขึ้นรักษาการประธานาธิบดีชั่วคราว

 

หากย้อนดูไทม์ไลน์แล้ว ความตึงเครียดระหว่างกองทัพเมียนมาและพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของ ออง ซาน ซูจี นั้นมีมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งแล้ว เราไปดูกันว่ามีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยอ้างอิงจากรายงานข่าวของสื่อชั้นนำเมียนมาอย่างอิรวดี

…………………………….

 

  • 14 สิงหาคม 2020: พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ประกาศในที่ประชุมร่วมระหว่างพรรคสหสามัคคีและการพัฒนา (USDP) กับอีก 34 พรรคที่มีจุดยืนหนุนกองทัพว่า “ผมกล้าที่จะทำทุกอย่าง หากเกิดเหตุการณ์ที่จะมีผลด้านลบต่อประเทศชาติ ประชาชน และอนาคตของกองทัพ” 

 

  • 2 พฤศจิกายน 2020: ก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเพียง 6 วัน กองทัพออกแถลงการณ์ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง ‘บกพร่อง’ ในการเตรียมการลงคะแนน พร้อมเตือนว่าหากเกิดความผิดพลาดอะไร รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ 

 

  • 3 พฤศจิกายน 2020: พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ออกสื่อโดยแสดงความกังวลถึงการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และต้องการให้การเลือกตั้งทั่วไปเป็นไปอย่างอิสระและเป็นธรรมอย่างแท้จริง ขณะที่สำนักประธานาธิบดีเมียนมาตอบโต้ว่าการกระทำของกองทัพเข้าข่ายละเมิดรัฐธรรมนูญ เพราะถือเป็นความพยายามแทรกแซงการเลือกตั้ง

 

  • 5 พฤศจิกายน 2020: กองทัพสวนกลับคำเตือนของสำนักประธานาธิบดีเมียนมาว่ารัฐบาลเพิกเฉยและเลี่ยงความรับผิดชอบต่อการทำงานของ กกต. ทั้งนี้ รัฐบาลให้คำสาบานไว้ว่าดำเนินงานใต้รัฐธรรมนูญอย่างสุจริต พร้อมขู่ว่า “รัฐธรรมนูญอนุญาตให้เพิกถอนประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีได้ หากพบว่าขาดคุณสมบัติ” นอกจากนี้ยังชี้ว่าสิ่งที่กองทัพกำลังกระทำเป็นไปตามหลักรัฐธรรมนูญในฐานะ ‘ผู้พิทักษ์’ ประเทศ

 

  • 8 พฤศจิกายน 2020: พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย แถลงการณ์ในวันเลือกตั้ง โดยสัญญาว่าเขาจะยอมรับผลการลงคะแนน ‘ที่สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน’ 

 

  • 30 พฤศจิกายน 2020: กองทัพประกาศจะตรวจสอบกระบวนการเลือกตั้งว่าดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลัง ‘อ้าง’ ว่าได้รับแจ้งการโกงคะแนนเลือกตั้งอย่างกว้างขวางทั่วประเทศ ขณะที่พรรค USDP เองอ้างว่าเกิดการทุจริตเลือกตั้ง และเรียกร้องให้ตรวจสอบกระบวนการลงคะแนน 

 

กองทัพเรียกร้องให้ กกต. สั่งการให้คณะกรรมการย่อยในเขตเลือกตั้ง ‘218 แห่งที่เจ้าหน้าที่ทหารและครอบครัวได้ไปลงคะแนน’ จัดส่งเอกสารให้กองทัพตรวจสอบ โดยอ้างอิงข้อมูลความผิดปกติที่เกิดขึ้นจาก ‘ทีมข้อมูลข่าวจริงแห่งกองทัพ’ (Tatmadaw True News Information Team) 

 

  • 10 ธันวาคม 2020: กกต. ปฏิเสธจะส่งมอบเอกสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งตามที่ร้องขอ พร้อมชี้ว่าการกระทำของกองทัพ ‘ขัดต่อกฎหมาย’ แม้ว่ากองทัพจะอ้างรัฐบัญญัติว่าด้วยหลักฐาน (Evidence Act) ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งย่อยต้องส่งสำเนาเอกสารเพื่อตรวจสอบ หากประชาชนมีข้อสงสัยต่อผลการลงคะแนน

 

  • 23 ธันวาคม 2020: แม้ กกต. จะไม่ยอมจัดส่งเอกสารให้ แต่กองทัพได้ดำเนินการตรวจรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนใน 314 เมืองทั่วประเทศด้วยตัวเอง และประกาศผลการตรวจสอบถึง ‘ความผิดปกติ’ ในการเลือกตั้ง เริ่มจากเขตเลือกตั้ง 4 แห่งที่พรรค USDP แพ้การเลือกตั้งอย่างขาดลอย 

 

ในรายงาน กองทัพพบว่าอาจเกิด ‘การลงคะแนนซ้ำซ้อน’ และ ‘การโกงคะแนน’ มากกว่า 7.6 ล้านเสียง ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งย่อยปฏิเสธข้อกล่าวหาและตั้งคำถามกับแหล่งที่มาของข้อมูล เพราะ กกต. ไม่ได้จัดส่งเอกสารให้ทางกองทัพเลย 

 

  • 8 มกราคม 2021: พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวหาว่าเกิดการทุจริตเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ

 

  • 11 มกราคม 2021: สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากการแต่งตั้งของกองทัพและ ส.ส. จากพรรคที่หนุนกองทัพรวม 203 คน ยื่นญัตติต่อประธานสภาให้จัดการประชุมสภาพิเศษขึ้นเพื่อแก้ปัญหาข้อกล่าวหาทุจริตการเลือกตั้ง ก่อนรัฐสภาชุดใหม่จะเริ่มทำงานในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 

 

  • 12 มกราคม 2021: ประธานสภาปฏิเสธญัตติดังกล่าว โดยระบุว่าความพยายามของกองทัพและพรรค USDP ที่จะหยิบยกข้อกล่าวหาการทุจริตต่อสภา ‘ขัดกับอำนาจของสภา’ เพราะเป็นหน้าที่ กกต. ที่จะชี้ขาดผลการเลือกตั้ง

 

วันเดียวกัน พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย แสดงความกังวลต่อการทุจริตเลือกตั้งระหว่างหารือกับ หวังอี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน พร้อมให้คำมั่นว่ากองทัพจะดำเนินการเพื่อพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่แน่ชัดว่าหวังอี้แสดงความเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้

 

  • 14 มกราคม 2021: กองทัพพยายามกดดันประธานสภาที่ ‘ปัดตก’ ญัตติจัดการประชุมสภาวาระพิเศษ โดยอ้างว่าประธานสภาอาจทำผิดรัฐธรรมนูญ แต่ฝ่ายกฎหมายยืนกรานว่าการตัดสินใจของประธานสภาถูกต้องตามกฎหมายและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

 

  • 20 มกราคม 2021: กองทัพเรียกร้องให้รัฐบาล กกต. หรือสมาชิกรัฐสภาพิสูจน์ให้ได้ว่าการเลือกตั้งเป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรม เพื่อนำประเทศชาติก้าวข้าม ‘สภาวะทางการเมืองที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก’ 

 

  • 29 มกราคม 2021: สถานทูตต่างชาติ 16 แห่ง รวมถึงสหรัฐฯ ผู้แทนจากสหภาพยุโรป รวมถึงสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ร้องขอให้เมียนมายึดมั่นในบรรทัดฐานแห่งประชาธิปไตย และแสดงท่าทีคัดค้านความพยายามใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้ง

 

  • 30 มกราคม 2021: กองทัพเมียนมายืนยันจะปกป้องและยึดถือรัฐธรรมนูญของประเทศ รวมถึงปฏิบัติตามกฎหมาย ท่ามกลางความกังวลในประเทศว่ากองทัพอาจพยายามยึดอำนาจ โดยชี้ว่าสื่อมวลชนตีความความคิดเห็นของพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย อย่างไม่ถูกต้อง 

 

  • 1 กุมภาพันธ์ 2021: โฆษกพรรค NLD เปิดเผยกับสำนักข่าวต่างประเทศทั้ง Reuters, CNN และ BBC ว่าทหารเมียนมาได้บุกควบคุมตัว ออง ซาน ซูจี รวมถึงประธานาธิบดี วิน มินต์ รัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคอีกหลายคนตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนหน้าการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันเดียวกัน

 

BBC รายงานโดยอ้างสำนักข่าวเมียวดี ซึ่งเป็นสื่อกระบอกเสียงของกองทัพเมียนมาว่า พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เข้ารักษาอำนาจรัฐ และมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศเป็นเวลา 1 ปี พร้อมตั้ง มิน ส่วย รองประธานาธิบดีที่ได้รับการหนุนหลังโดยกองทัพเป็นประธานาธิบดีรักษาการชั่วคราว 

 

ภาพ: AFP

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising