THE STANDARD POP เปิดบ้านต้อนรับแขกสุดพิเศษ ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล มาร่วมพูดคุยกันเป็นครั้งแรกในรายการ Chairs to Share ที่พร้อมจะพาผู้ชมไปสำรวจตัวตนของชายคนนี้ที่ไม่ใช่แค่ในมุมของนักการเมือง แต่เป็นการล้วงลึกถึงชีวิตอีกด้านในฐานะพ่อที่ต้องดูคอยดูแลลูกสาวเพียงคนเดียว
นอกจากนี้ พิธายังเล่าถึงความชอบที่เขามีต่อโลกป๊อปคัลเจอร์ทั้งดนตรี กีฬา และภาพยนตร์ ที่ล้วนแล้วแต่หล่อหลอมตัวเขามาอย่างยาวนานจนกลายเป็น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อย่างที่หลายคนรู้จักในทุกวันนี้
THE STANDARD POP จึงถือโอกาสนี้รวบรวมความคิดดีๆ ซึ่งบอกเล่าถึงมุมมองชีวิตที่น่าสนใจมาให้แฟนๆ ทุกคนได้ทำความรู้จักกับตัวตนของพิธากันอีกครั้ง
รับชม ทิม พิธา ฉากการเมืองที่ฉายซ้ำ กับความรักของคนโสด? | Chairs to Share EP.13
“จากที่เคยมี สส. อยู่ 40-50 คน มาเป็น 151 คน นี่มันคือ 3 เท่า ในขณะที่มีกูรูทางการเมืองหรือพี่น้องสื่อมวลชนอาจจะรู้สึกว่าเต็มที่ก็คงได้ 30 ที่นั่ง ก็ได้ 150 ที่นั่ง เพราะฉะนั้นถ้ามองในมุมนี้ ผมภูมิใจ ไม่ได้ภูมิใจในตัวเอง แต่ภูมิใจในสิ่งที่ผมและคนที่คิดเหมือนผม ที่มีอุดมการณ์แบบผมทำร่วมกันมา ผมไม่สามารถที่จะใกล้ความสำเร็จเท่าที่มันเป็นอยู่ได้เลยถ้าไม่มีพี่น้องประชาชนคอยช่วย”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Chairs to Share EP.13 ถึงความรู้สึกที่ตนมีหลังจากชนะเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
“ผมต้องการจะเป็นอะไรที่มันใหม่ ที่มันชัด ที่มันโดนกับเมือง แล้วก็ให้รู้สึกว่าคำพูดมันมีความหมาย ความเชื่อมั่นมันมีความหมาย ศรัทธาประชาชนมันมีความหมาย และผมเชื่อว่าหลายๆ ครั้ง ถ้าผมจะต้องบริหารอะไรสักอย่างอย่างการบริหารประเทศ ถ้ามันมีความน่าเชื่อถือหรือเชื่อมั่นมาจากพี่น้องประชาชน งบประมาณที่น้อยมันได้ความร่วมมือจากคน เพราะเราไปนั่งอยู่ในใจคน ไม่ได้นั่งอยู่บนหัวคน เพราะฉะนั้นสำหรับผมคำว่า ‘ศรัทธา’ ให้มันเป็นวิกฤตไม่ได้เด็ดขาด”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Chairs to Share EP.13 ถึงความต้องการและมุมมองของเขาในฐานะนักการเมือง
“สิ่งที่เราต้องการจะพูดให้กับสังคมส่วนใหญ่ฟังคือ เราไม่ได้สมบูรณ์แบบ แล้วเราก็ไม่ได้วิเศษวิโส เราพร้อมที่จะรับฟังและเปลี่ยนตัวเองอยู่ตลอด ซึ่งตรงกันข้ามกับบางครั้งที่เขาต้องการจะตีตราว่าเป็นเด็กสุดโต่งหรือกร่าง แต่ว่าการที่จะทำให้มันมีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือการที่จะทำให้ก้าวหน้า บางทีมันก็อยู่ที่บริบท”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Chairs to Share EP.13 ถึงการคงความเป็นตัวเองและไม่ตกหลุมทางการเมืองของพรรคก้าวไกล
“มันต้องเชื่อก่อน ผมเชื่อว่ามันมีอากาศอยู่แต่ผมมองไม่เห็น ผมเชื่อว่ามันมี Wi-Fi อยู่แต่ผมก็มองไม่เห็นเหมือนกัน ฉะนั้นถ้ามันยังไม่ได้เกิดขึ้นก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นไปไม่ได้ แล้วผมก็พยายามจะแบ็กอัพมัน ไม่ใช่แค่ด้วยสมมติฐาน แต่ว่าดูสิ่งที่ชิลีต้องต่อสู้ หรือดูที่เกาหลีใต้ต้องต่อสู้ มันก็มีประเทศที่ทำได้สำเร็จและประเทศที่ทำไม่สำเร็จ”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Chairs to Share EP.13 ถึงความเชื่อที่ว่าประเทศไทยจะมีการเมืองที่ดีได้
“อนาคตจะเกิดขึ้นอย่างไรไม่สำคัญเท่ากับว่าเราปลูกฝังพื้นฐานอย่างไรให้กับเขา มันก็เหมือนกับชีวิตหนูในวันนี้ที่อาจจะมีบางคนช่วยถือกระเป๋าให้ กับอีกคนที่บอกว่าไม่ให้เล่น ให้ออกไปจากวงซะ เพราะฉะนั้นนี่คือความเป็นมนุษย์ที่หนูก็เจอ พ่อก็เจอ แต่หนูเลือกได้ว่าหนูจะตอบรับกับมันหรือจะตอบโต้กับมัน”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Chairs to Share EP.13 ถึงอนาคตในวันที่ลูกสาวย้อนกลับมามองเรื่องราวของพ่อในวันนี้
“ถ้ามีคนมาขอถ่ายรูปกับพ่อแล้วพิพิมไม่อยากถ่ายด้วย พิพิมก็บอกเขาว่าวันนี้หนูไม่พร้อมนะคะ หนูเดินออกไปได้เลย มันเป็นสิทธิในร่างกายของเขา ถ้าเกิดเขาไม่อยากโดนถ่ายรูป เขาไม่อยากให้ใครมากอด เขาก็จะไม่ต้องมาถามพ่อ เขาก็จะพูดอย่างสุภาพกลับไปว่า วันนี้หนูรู้สึกไม่ค่อยดีเลยค่ะ ขอครั้งหน้านะคะ แล้วเขาก็จะเดินไปหาพี่เลี้ยงเขาได้เลย”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Chairs to Share EP.13 ถึงวิธีการปลูกฝังความคิดให้กับลูกสาว
“แด่เธอผู้เป็นทุกอย่าง เหมือน Paradox เลย ผมต้องระวังเหมือนกัน แน่นอนว่าลูกสาวกับคุณพ่อมันเป็นทุกอย่างของเราหมดแล้ว แต่เราต้องมีขอบเขตหรือมีสติกับตัวเองตลอดเวลาว่าจะไม่ไปพึ่งพาลูกมากเกินไป มันก็ต้องเริ่มฝึกตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ว่าถ้าลูกปฏิเสธ หรือถ้าเราไม่ใช่คนคนเดียวที่เป็นโลกทั้งใบอีกแล้ว เราก็จะไม่รู้สึกโกรธลูกหรือน้อยใจจนกระทั่งไปทำอะไรไม่ดี ทำให้ความสัมพันธ์ของเราแย่ลง”
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Chairs to Share EP.13 ถึงลูกสาวที่เป็นพลังให้กับชีวิตของเขาในฐานะพ่อและนักการเมือง