×

Tia Lee การทวงบัลลังก์ของราชินี C-Pop Tia ได้ตรึงกระแสความสนใจถล่มทลายด้วยบทเพลง Goodbye Princess

09.12.2022
  • LOADING...
Tia Lee

HIGHLIGHTS

  • Tia Lee (a.k.a. Lee Yu Fen (李毓芬)) เข้าสู่วงการและมีผลงานแสดงในละคร ภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Fall in Love with Me และ One Headlight
  • ความน่าสนใจของแคมเปญ Goodbye Princess (再见公主)  อยู่ที่การร้อยเรียงเรื่องราวเปรียบเปรย Tia กับเจ้าหญิงคนหนึ่ง ซึ่งต้องเผชิญกับอดีตที่เจ็บช้ำและผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย และสิ่งเหล่านั้นล้วนทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้น
  • แคมเปญนี้ของ Tia ได้รับความสนใจจากแฟนเพลงทั่วโลกจนทำให้แอนิเมชันขนาดสั้นของเธอทั้ง 6 ตอนกวาดยอดวิวรวมไปแบบถล่มทลายมากกว่า 100 ล้านวิว ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ปล่อยเพลงคัมแบ็กของตัวเองอย่างเป็นทางการออกมาเลยด้วยซ้ำ!

เวลานี้คงไม่มีใครจะฮอตและร้อนแรงแซงหน้าเกินไปกว่า ‘Tia Lee’ นักแสดง ตัวแม่แฟชั่นแห่งยุค และศิลปิน C-Pop เพราะแม้จะยังไม่ได้ปล่อยเพลงคัมแบ็กของเธอออกมาอย่างเป็นทางการ แต่กระแสความสนใจที่เหล่าแฟนๆ มีต่อการกลับมาของเธอในครั้งนี้ก็กลายเป็นปรากฏการณ์ที่น่าประทับใจอยู่พอสมควร

 

ก่อนจะไปเล่าว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Tia Lee นั้นน่าสนใจอย่างไร เรามาทบทวนกันอีกสักครั้ง ว่าทำไมศิลปินหญิง C-Pop ผู้นี้ถึงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในไอคอนิกของวงการ C-Pop แถมยังมีแฟนๆ ทั่วโลกตกหลุมรัก คอยให้กำลังใจเธออย่างเหนียวแน่นในทุกๆ ย่างก้าวความสำเร็จที่เธอปักหมุดหมายเอาไว้ในวงการ

 

ภาพ: Vogue Hong Kong

 

Tia Lee ดวงดาวแห่งเอเชีย (Global C-Pop Star) และตัวแม่แฟชั่นแห่งยุค ผู้กุมหัวใจแฟนทั่วโลกด้วยเสน่ห์และความสามารถที่หาตัวจับยาก เข้าสู่วงการและมีผลงานแสดงในละคร ภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Fall in Love with Me และ One Headlight

 

ความสามารถของ Tia ไม่ได้จำกัดแค่ผลงานการแสดงเท่านั้น เพราะในเวลาเดียวกัน เธอยังฉายแววผ่านการเป็นนักร้องที่มีเสียงทรงเสน่ห์อีกด้วย โดยเธอเป็นเจ้าของบทเพลงอย่าง Not Good Enough ซึ่งเพลง Not Good Enough นี้ยังเป็นหนึ่งในแทร็กที่ถูกรวบรวมในอัลบั้มเพลงประกอบซีรีส์เกาหลีเรื่อง Twenty Again อีกต่างหาก

 

IG: https://www.instagram.com/leeyufen/ 

 

เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยใบหน้าและลุคที่สวยแบบอินเตอร์ สวยแบบหาตัวจับยาก สวยแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว Tia จึงได้รับการยอมรับในฐานะไอคอนิกคนหนึ่งของวงการบันเทิง ทั้งยังเป็นหนึ่งในนางแบบที่ฮอตที่สุดคนหนึ่งของอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยเธอได้ถ่ายถอดลุคความปังผ่านแบรนด์ระดับโลก เช่น BURBERRY, GUCCI, Christian Louboutin และอื่นๆ

 

โดยเมื่อเร็วๆ นี้ เธอยังได้รับเกียรติขึ้นปกนิตยสารแฟชั่น Vogue Hong Kong และนิตยสาร Rollacoaster ในโอกาสต้อนรับการคัมแบ็กของเธออย่างเป็นทางการ โดยนิตยสาร Rollacoaster มีเหล่าตัวพ่อตัวแม่ของวงการตบเท้าขึ้นปกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Alicia Keys, Justin Bieber 

 

ภาพ: Rollacoaster

 

ปรากฏการณ์การทวงบัลลังก์ของไอคอนิกวงการ C-Pop

“อดีตของฉันที่แตกสลาย คล้ายกลีบดอกไม้ที่ร่วงโรยจะไม่มีวันได้กำหนดเส้นทางของฉัน ในทางตรงกันข้ามมันมีแต่จะเพิ่มความแข็งแกร่งและฟื้นฟูตัวฉัน

“Fallen petals are fragmented past that imprisoned me, but they grow to become strength and restore me.” 

 

 

“ฉันจะกำราบมังกรของฉัน เลือกธำรงตนในฐานะอัศวินภายใต้ชุดเกราะเงาวับ…ลาก่อนเจ้าหญิงไร้เดียงสา”

“I will slay my dragon, for I am my own knight in shining armor…Goodbye Princess.”

 

นี่คือบางส่วนจากโปรเจกต์ ‘Goodbye Princess’ แอนิเมชันขนาดสั้นความยาวรวม 6 ตอนที่โหมโรงเผยแพร่ทางชาแนลของเธอ เพื่อต้อนรับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของ Tai ซึ่งเป็นหนึ่งในพาร์ตที่เราชอบเป็นลำดับต้นๆ ของโปรเจกต์ดังกล่าว

 

ความน่าสนใจของแคมเปญ Goodbye Princess อยู่ที่การร้อยเรียงเรื่องราวเปรียบเปรย Tia กับเจ้าหญิงคนหนึ่ง ซึ่งต้องเผชิญกับอดีตที่เจ็บช้ำและผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มามากมาย ก่อนที่เธอจะยืนหยัดเพื่อเติบโต ผละออกจากอดีตจากวันวาน และตัดสินใจวาดเส้นทางอนาคตในแบบของเธอเอง

 

Tia Lee ในชุดกูตูร์สีเขียวสุดไอคอนิกจากแบรนด์ Valentino ที่ขับให้ออร่านางพญาของเธอเปล่งประกายเจิดจรัสเป็นที่สุด

 

นอกจากเส้นเรื่องที่น่าประทับใจ ลายเส้นที่สวยงาม ละมุนอกละมุนใจ ตัวแอนิเมชันยังผสมผสานศาสตร์ด้านแฟชั่น แอนิเมชัน การเล่าเรื่อง ออกมาได้อย่างลงตัว กลมกล่อมเป็นที่สุด ทั้งยังเป็นครั้งแรกของวงการ C-Pop ที่เลือกถ่ายทอดแคมเปญคัมแบ็กของศิลปินในวงการด้วยวิธีการที่ทรงพลังเช่นนี้ โดยเป็นผลงานการรังสรรค์ของทีมสร้างจากฮ่องกงที่กวาดรางวัลมานับครั้งไม่ถ้วน รวมถึงเป็นการโคจรมาพบกันของครีเอทีฟไดเรกเตอร์มือทอง Tony C. Miller และโปรดิวเซอร์ Kate Wynborne

 

ไม่แปลกใจที่แคมเปญนี้ของ Tia  จะได้รับความสนใจจากแฟนเพลงทั่วโลกจนทำให้อนิเมชันตอนสั้นของเธอทั้ง 6 ตอนสามารถกวาดยอดวิวรวมไปแบบถล่มทลายมากกว่า 100 ล้านวิว ทั้งๆ ที่เธอยังไม่ปล่อยเพลงคัมแบ็กของตัวเองอย่างเป็นทางการออกมาเลยด้วยซ้ำ เรียกว่าเป็นหนึ่งในปราฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับศิลปินคนหนึ่งซึ่งน่าสนใจเป็นอย่างมาก

 

ชุดของ Tia Lee ในแอนิเมชัน Goodbye Princess เอพิโสดที่ 4

 

ที่น่าประทับใจไม่แพ้กันคือ ในอนิเมชัน Goodbye Princess ทั้ง 6 ตอน ชุดของคาแรกเตอร์ Tia ยังได้รับการรังสรรค์ (Styled)โดย จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล (Sanshai) ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ชื่อดังจากนิตยสาร Vogue ประเทศไทยอีกต่างหาก! 

 

การกลับมาของ Tia ในครั้งนี้จึงถือเป็นปรากฏการณ์ที่ทุกคนต้องจับตาดูให้ดี เพราะไม่ใช่แค่เพลงของเธอเท่านั้นที่จะตรึงความสนใจของทั่วโลกได้อยู่หมัด แต่ด้วยสไตล์แฟชัดที่จัดจ้าน ผสมผสานกับวิธีการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ ทรงพลัง สอดแทรกไปด้วยแนวคิดการ Empower และการส่งต่อแรงบันดาลใจ สิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญต่อการคัมแบ็กของเธอบนหน้าสื่อ ทั้งนี้แฟนๆ สามารถเข้าไปรับชมซีรีส์ ‘Goodbye Princess’ ได้ทาง Instagram, Facebook และ YouTube ของ Tia


หลังจากประสบความสำเร็จในการทำลายสถิติของแคมเปญพรีรีลีส สาขา C-Pop ผลงานและมิวสิกวิดีโอเพลง Goodbye Princess โดย Tia Lee จะปล่อยออกมาให้แฟนๆ ทั่วโลกได้รับชมรับฟังพร้อมกันผ่านทั้งช่องทาง YouTube และ Weibo ของ Tia ในวันที่ 9 ธันวาคม พร้อมให้แฟนทั่วโลกได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ Tia จากการก้าวข้ามผ่านเกราะกำบัง ตกผลึกไปสู่ตัวตนที่ลึกซึ้งและคมชัด แต่ยังคงบุคลิกที่กล้าหาญพร้อมที่จะเผชิญโลก

 

เกริ่นถึงตัวเพลงสักเล็กน้อย แทร็กคัมแบ็ก Goodbye Princess ของ Tia ในครั้งนี้จะถือเป็นเพลง C-Pop เพลงแรกที่ได้รับการโปรดิวซ์โดยเจ้าของรางวัล Grammy Awards อย่าง Swizz Beatz โปรดิวเซอร์ระดับพระกาฬ ผู้รังสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซให้กับศิลปันดังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Madonna, Britney Spears, Beyoncé, Justin Bieber หรือ Jay-Z 

 

ส่วนตัวมิวสิกวิดีโอก็ได้รับการควบคุมการผลิตโดย Actual Objects ครีเอทีฟสตูดิโอระดับโลกในแอลเอ สหรัฐฯ ที่เคยผ่านการทำงานร่วมกับแบรนด์และศิลปินชั้นนำอย่าง Travis Scott, Trippie Redd, Madison Beer, Nike, The North Face ฯลฯ มาแล้ว

 

ซึ่งเอ็มวี Goodbye Princess จะถูกถ่ายทอดออกมาในธีม Futuristic Cyberpunk เน้นความล้ำสมัย เหนือจินตนาการ โดยบอกเล่ามุมมองและความเป็น Tia ที่เติบโตจากเจ้าหญิงที่ได้รับการทะนุถนอม ก่อนจะก้าวไปสู่บุคลิกของเธอที่แท้จริงในเวอร์ชันที่แข็งแกร่งขึ้นและเป็นตัวเองมากกว่าที่เคย 

 

โดย Tia ยังบอกอีกด้วยว่า ในเอ็มวีนี้เราจะได้เห็นเธอในเวอร์ชันอดีตซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในปราสาทหรูหราที่ถูกห่อหุ้มป้องกันไว้เป็นอย่างดี แต่ทั้งหมดทั้งหลายเหล่านั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่ตัวตนจริงๆ ของเธอต้องการเลยแม้แต่น้อย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เธอเลือกเล่าวิชวลตัวเองผ่าน Virtual Digital ทั้งยังเปรียบเสมือนการบอกลาอดีตเพื่อโอบรับอนาคตด้วยตัวเอง

 

“ฉันคิดว่าชีวิตคือการก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง เมื่อใดก็ตามที่คุณทำเช่นนั้น คุณจะพบว่าโลกใบนี้มีสิ่งสวยงามอีกมามายรอคุณอยู่” Tia กล่าวปิดท้าย

 

ใครที่ชื่นชอบและหลงใหลในเสน่ห์ของเธออย่าลืมไปให้กำลังใจเธอกันได้ในทุกช่องทาง!

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising