วานนี้ (14 กันยายน) เทพไท เสนพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เขียนข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็น ข่าวการทยอยลาออกจากผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคในช่วงนี้ โดยระบุว่าเสียดายเลือดใหม่ ที่จากไปคนแล้วคนเล่า ส่วนตัวยังยืนหยัดสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริงต่อไป
เทพไทระบุอีกว่า ตนเห็นข่าวจากทวิตเตอร์ ที่ นัตตี้ หรือนัฏฐิกา โล่ห์วีระ อดีตผู้สมัคร ส.ส. ชัยภูมิ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวีตข้อความ ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไปร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคก้าวไกลนั้น ก็ต้องยอมรับความจริงว่า หลังจากพรรคประชาธิปัตย์มีมติสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งสวนทางกับจุดยืนของพรรคที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ได้ประกาศไว้ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทำให้พรรคต้องสูญเสียสมาชิกและผู้สนับสนุนไปจำนวนหนึ่ง รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมพรรคในฐานะเลือดใหม่ของพรรคด้วย โดยเฉพาะสมาชิกกลุ่มนิวเดม ที่ได้ทยอยลาออกกันไปหลายคน
เทพไทระบุอีกว่า ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่มีความคิดเหมือนน้องๆ ที่ผิดหวังกับมติพรรคในครั้งนั้น ตนเข้าใจความรู้สึกและเห็นใจน้องๆ ทุกคน แต่เมื่อเราเป็นฝ่ายเสียงข้างน้อยภายในพรรค ก็ต้องยอมรับและเคารพมติเสียงข้างมากตามหลักการประชาธิปไตย จึงต้องยืนหยัดต่อสู้ทางความคิดในพรรคต่อไป
“ผมรู้สึกเสียดายคนรุ่นใหม่ ที่พวกเขามีความคิดบริสุทธิ์แบบสุดขั้ว และมีความผูกพันกับพรรคในระยะเวลาสั้นๆ จึงได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอย่างไม่ลังเล ก็ขออวยพรให้โชคดีทางการเมือง เป็นนักการเมืองที่ดี สร้างประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน ตามอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ยึดมั่นไว้” เทพไทระบุ
.
ด้านนัฏฐิกากล่าวในรายการ Inside Thailand วันนี้ (15 กันยายน) ถึงโพสต์ของเทพไท ว่าแนวคิดหลักการประชาธิปไตยไม่ใช่แนวคิดที่สุดขั้ว แต่เป็นแนวคิดที่เป็นกลางและสันติวิธี แต่การบอกว่าเชื่อแนวคิดประชาธิปไตยแบบสุดขั้ว เป็นการกล่าวหามากกว่า การที่เราต่อต้านเผด็จการเป็นความคิดสุดขั้ว แล้วการสนับสนุนเผด็จการเป็นแนวคิดสุดขั้วเหมือนกันหรือไม่ เพราะระหว่างประชาธิปไตยกับการสนับสนุนเผด็จการมันเป็นความคิดสุดขั้วอยู่แล้ว พรรคได้มีจุดร่วมอะไรที่จะยึดโยงคนรุ่นใหม่ได้ หรือดึงเขาไว้ได้ไหม หากมีจุดร่วมพรรคไม่ต้องกลัวว่าใครจะดึงเขาไป ยังมีพรรคอื่นๆ ที่ตอบโจทย์แนวคิดและอุดมการณ์ หากพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าพรรคมีอุดมการณ์แบบไหน ก็จะได้คนของพรรคแบบนั้น
นัฏฐิกายอมรับว่า พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม ได้มีการมาชวนไปร่วมทำงานด้วยเช่นกัน แต่ตนเองต้องแสดงความซื่อสัตย์กับทั้งสองฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา ว่าเราจะเลือกทำงานตรงไหน อย่างไร พร้อมระบุว่าที่ตัดสินใจเลือกก้าวไกล เพราะสังคมควรเดินไปในทางประชาธิปไตยเพื่อการพัฒนาประเทศ และพรรคก้าวไกลได้นำเสนอการนำเอาประชาธิปไตยกลับมาสู่สังคม
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 กันยายน นัฏฐิกาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตนเองระบุว่า “สวัสดีค่ะทุกคน ตอนนี้ นัตตี้-นัฏฐิกา โล่ห์วีระ ได้มาทำงานกับพรรคก้าวไกลอย่างเต็มตัวแล้ว ฝากติดตามด้วยนะคะ ใครมีความเห็นหรือข้อเสนออะไร แชร์กันได้นะคะ”
อ้างอิง:
