หลังจากรัฐบาลออกข้อกำหนดเรื่องการนำเสนอข่าวหรือข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความ ‘หวาดกลัว’ ให้อำนาจ กสทช. แจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสั่งระงับ IP Address และส่งตำรวจดำเนินคดีได้
เนื่องจากยังไม่มีข้อกำหนดชัดเจนว่า ‘ข้อความ’ แบบไหนที่เข้าข่ายบิดเบือนและทำให้หวาดกลัว และเรายังต้องหาคอนเทนต์มานำเสนอ THE STANDARD POP เลยขอเปลี่ยนจากการนำเสนอข่าว มาเป็นนำเสนอเรื่องราวของเหล่าตัวร้ายจากฝั่งรัฐบาลใน ‘การ์ตูน’ เรื่องวันพีซแทน
และถ้ามีพฤติกรรมไหนของตัวร้ายเหล่านี้ทำให้เกิดความหวาดกลัว และไม่ได้เกิดขึ้นในเรื่อง ‘วันพีซ’ ให้เอาปากกามาวง แล้วระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตเราได้เลย!
*หมายเหตุ: ตอนนี้ THE STANDARD POP มีรายการใหม่ #โลกคือการ์ตูน ที่นำการ์ตูนเรื่อง One Piece มาพูดตีความถึงแง่มุมต่างๆ ทั้งทางชีวิต สังคม และการเมือง ที่ซ่อนอยู่ภายใต้การผจญภัยของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
สามารถรับชมรายการได้ที่
ความเป็นผู้นำของลูฟี่ ถ้าการเมืองดีเราจะมีความฝัน Feat. สะอาด | โลกคือการ์ตูน EP.2 – YouTube
ทหารระดับผู้พันที่ควรดูแลปกป้องประชาชน แต่กลับทำตัวเป็นเผด็จการใช้อำนาจปกครองด้วยความหวาดกลัวจนมอร์แกนกลายเป็นชื่อ ‘ต้องห้าม’ ที่ประชาชนไม่อยากพูดถึงและไม่อยากได้ยิน
แถมยังชอบใส่ร้ายป้ายความผิดให้คนอื่น แม้ตั้งข้อหาให้ลูฟี่ โซโร และโคบี้ เป็นกบฎ ทั้งที่พวกเขาเป็นเพียงเด็กรุ่นใหม่ที่กล้าออกมาต่อสู้กับความอยุติธรรม
นอกจากนิสัยลุ่มหลงในอำนาจ มอร์แกนยังชอบอวดโอ่ความยิ่งใหญ่ของตัวเอง ถึงขนาดสร้างรูปปั้นตัวเองไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ถึงแม้เราไม่เห็นว่าห้องทำงานของเขาเป็นอย่างไร แต่พอเดาได้ว่าอาจจะมีรูปม้า รูปพระที่มีทองปิดอยู่ด้านหลัง และภาพตัวเองแปะอยู่ที่ผนังด้านหลังโต๊ะทำงานก็ได้
ทันทีที่ลูฟี่จัดการมอร์แกนได้สำเร็จ ไม่ใช่แค่ชาวบ้านเท่านั้นที่ดีใจ เหล่าทหารใต้บังคับบัญชาก็ยังโห่ร้องด้วยความยินดี เพราะยุคสมัยแห่งการกดขี่ของผู้พันเผด็จการคนนี้สิ้นสุดลงแล้ว
นายทหารละทิ้งหน้าที่ ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นความผิดของกลุ่มโจรสลัดเงือกที่กดขี่ รีดไถ ปกครองประชาชนด้วยความหวาดกลัว เพื่อแลกกับเงินสินบนในแต่ละเดือน
รวมทั้งยังอยู่ในแผนการที่อารองหลอกว่าถ้านามิเก็บเงินได้ 100 ล้านเบรี จะปลดปล่อยคนในหมู่บ้านให้เป็นอิสระ เมื่อนามิเก็บเงินได้ 93 เบรี ก็เป็นเนซูมิที่อ้างการทำงานของรัฐบาลมายึดเงินและบอกว่าผิดกฎหมาย ทำให้ความฝันของนามิแหลกสลายไปในพริบตา
เมื่ออารองถูกจัดการ เนซูมิถูกลูฟี่ชกจนหน้าหงาย เขารีบซมซานกลับฐานทัพแจ้งให้รัฐบาลออกประกาศจับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง พร้อมตั้งค่าหัว 30 ล้านเบรี หวังให้กองทัพจัดการลูฟี่ให้สิ้นซาก
โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางเป็นที่รู้จัก และตอกย้ำความล้มเหลวของรัฐบาลมากขึ้นกว่าเดิม
อาณาจักรดรัมขึ้นชื่อเรื่องการแพทย์ แต่เมื่อวาโปลูขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาล ได้ออกมาตรการบังคับให้หมอฝีมือดีอยู่ใต้อำนาจ ชีวิตประชาชนจะเจ็บป่วยอย่างไรไม่สำคัญ แต่ตัวเขาและทีมงานกลุ่มวีไอพีต้องได้รับการรักษาที่ดีที่สุดก่อนใคร
หากหมอคนไหนไม่ทำตามคำสั่งจะถูกฆ่าหรือไม่ก็ไล่ออกจากเกาะ จนเหลือหมอเพียง 20 คน ที่ต้องอดทนอยู่ภายใต้การปกครองที่ไม่เป็นธรรม ยอมทำตามคำสั่งเพราะความหวาดกลัว
ซ้ำร้ายเมื่ออาณาจักรถูกกลุ่มโจรสลัดหนวดดำบุก วาโปลูก็รีบพาทีมงานและหมอทั้ง 20 คน หนีออกจากอาณาจักรทันทีโดยไม่คิดต่อสู้ และเมื่อประชาชนค่อยๆ ฟื้นฟูอาณาจักรขึ้นมาใหม่ วาโปลูก็ลอยหน้าลอยตากลับมาเตรียมปกครองอาณาจักรหน้าตาเฉย ก่อนที่จะถูกลูฟี่ซัดจนกระเด็นไปอีกคนด้วยความสะใจ
อ้างตำแหน่ง 7 เทพโจรสลัด ที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล สร้างภาพฉากหน้าเป็นฮีโร่ที่มาช่วยปกป้องอาณาจักรอลาบาสตา ในขณะที่เบื้องหลังเป็นผู้นำองค์กรลับ บาร็อคเวิร์ค ที่วางแผนสะสมกำลังมาหลายปี
คร็อกโคไดล์คือหนึ่งในตัวร้ายที่วางแผนอย่างแยบยล ตั้งแต่โฆษณาชวนเชื่อให้คนคิดว่าตัวเองมาช่วยแก้วิกฤต ทั้งที่จริงมาพร้อมแผนร้ายทำลายอาณาจักร แถมยังสร้าง ‘เฟกนิวส์’ หลอกให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาในตัวราชาคอบร้าที่ปกครองอลาบาสตาอย่างสงบสุข
จนสุดท้าย ประชาชนแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝ่าย ต่อสู้ห้ำหั่นกันด้วยความคิดที่ว่าพวกเขากำลังต่อสู้เพื่อ ‘ปกป้องอาณาจักร’ ในขณะที่คร็อกโคไดล์ยืนยิ้มมองความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยความสะใจ จนถูกลูฟี่ใช้มือที่ชุ่มไปด้วยเลือดหยุดความเลวร้ายได้ในที่สุด
หัวหน้าหน่วยข่าวกรองที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลโลกให้มาสลายการรวมตัวของนักวิชาการแห่งเกาะโอฮารา ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น ‘ปีศาจ’ เพียงเพราะต้องการถอดรหัสข้อความจากโพเนกลีฟ เพื่อศึกษา ‘ประวัติศาสตร์’ ที่หายไป
ถึงแม้อยู่ในกองทัพเรือที่ชอบอวดอ้างว่าตัวเองยิ่งใหญ่ แต่สแปนไดน์ก็ยังขี้ขลาด ใช้อำนาจบัสเตอร์คอล เรียกพลเรือโท 5 คน และเรือรบ 10 ลำ มาจัดการกับนักวิชาการที่ถนัดจับหนังสือมากกว่าถืออาวุธต่อสู้
แถมยังสั่งให้เผาหนังสือแหล่งข้อมูลล้ำค่าทางประวัติศาสตร์จนสิ้นซาก เหมือนกลัวว่าความมั่นคงของรัฐบาลจะถูกสั่นคลอนหาก ‘ความจริง’ ที่ปิดบังเอาไว้ถูกเปิดเผย
สุดท้ายผู้คนบนเกาะโอฮาราถูกสังหารจนเสียชีวิตทั้งหมด หลงเหลือเพียง นิโค โรบิน เมล็ดพันธุ์เพียงหนึ่งเดียวที่สามารถเข้าถึงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และได้ร่วมมือกับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เพื่อรอวันเปิดเผยความจริงใน 100 ปีที่หายไปในอนาคต
สแปนดัมคือคนของกองทัพเรือที่หมกมุ่นอยู่กับ ‘เรือรบ’ เป็นพิเศษ ตั้งแต่วางแผนเรือรบของแฟรงกี้ตอนเป็นเด็ก มาใส่ร้ายแฟรงกี้และทอม นักต่อเรือในตำนาน สมัยยังเป็นสมาชิกหน่วย CP5
ต่อมาเขากลายเป็นหัวหน้าหน่วย CP9 ตามรอยพ่ออย่างสแปนไดน์ ผู้นำภารกิจสุดเลวร้าย สังหารนักวิชาการบนเกาะโอฮาราอย่างเหี้ยมโหด สแปนดัมต้องการให้รัฐบาลครอบครองแบบแปลนเรือรบโบราณ ‘พลูตัน’ อาวุธที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อใช้ควบคุมยุคสมัยแห่งโจรสลัดเอาไว้
สแปนดัมเลือกใช้วิธีสกปรกทุกหนทางเพื่อให้รัฐบาลมีเรือรบเอาไว้ขู่ให้คนกลัว ทั้งส่งสายลับเข้าไปสืบข้อมูล จัดการคนที่ขวางทาง เอาชีวิตกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางมาข่มขู่ให้ นิโค โรบิน ยอมจำนน และปฏิบัติกับเธออย่างเหี้ยมโหดราวกับไม่ใช่มนุษย์
และสุดท้ายก็เป็นเขาที่พ่ายแพ้ ถูก นิโค โรบิน รัวมือตบจนหน้าระบม ได้ล้างแค้นอย่างสาสม โดยที่ยังไม่ทันได้เห็นแม้แต่เงาของเรือดำน้ำสักลำให้ชื่นใจเลยด้วยซ้ำ
หนึ่งในสามพลเรือเอกแสนยานุภาพสูงสุดของกองทัพเรือที่เต็มไปด้วยความเฉื่อยชา และเราแทบยังไม่เคยเห็นคิซารุใช้ความสามารถเพื่อปกป้องประชาชนเลยสักครั้ง
แต่ทันทีที่ ‘เผ่ามังกรฟ้า’ ถูกลูฟี่ชกจนหน้าหงาย เพราะการกระทำที่ใช้สิทธิพิเศษของชนชั้นสูงกดขี่ด้อยค่าชีวิตมนุษย์เป็นเพียงฝุ่นผง คิซารุก็รีบออกตัวปกป้องเผ่ามังกรฟ้า อาสามาจัดการกับเหล่าโจรสลัดด้วยความเร็วแสง
“การที่ชนชั้นสูงของโลกถูกทำร้ายแบบนี้ พวกเราคงจะนิ่งดูดายอยู่ไม่ได้แล้วล่ะครับ”
แน่นอนว่าไม่มีคนสงสัยความสามารถที่เก่งระดับปีศาจของคิซารุ แต่คงจะดีกว่านี้ถ้าเขาใช้ความสามารถเหล่านั้นอย่างตั้งใจ ไม่ใช่แค่ในฐานะ ‘ทหารของเผ่ามังกรฟ้า’ แต่เป็น ‘ทหารของประชาชน’ จริงๆ
ย้อนกลับไปเหตุการณ์สลายการรวมตัวของนักวิชาการแห่งเกาะโอฮารา อาคาอินุคือ 1 ใน 5 พลโทที่ได้รับมอบหมายภารกิจ และเป็นคนสั่งให้ทำลายเรือผู้อพยพทิ้ง เพราะความคิดเพียงแค่ว่าอาจมีนักวิชาการสักคนแอบหนีขึ้นเรือไปก็ได้
ด้วยความสามารถที่เก่งกาจ เขาได้เลื่อนขั้นให้เป็น 1 ใน 3 พลเรือเอกที่มีนิสัยแข็งกร้าวมากที่สุด เห็นได้ชัดจากสงครามมารีนฟอร์ดระหว่างกองทัพเรือกับกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวและพันธมิตร
ถึงแม้เรียกตัวเองว่าเป็นทหารอ้างหลักความยุติธรรม แต่อาคาอินุกลับใช้แผนการต่ำช้ายิ่งกว่าโจรสลัด สร้างเรื่องโกหกกับสัญญาปลอมๆ ปั่นหัวให้สควอโด้หักหลังหนวดขาวเพื่อตัดกำลัง และสั่ง ‘ปิด’ สัญญาณการถ่ายทอดสดเพื่อไม่ให้คนทั้งโลกรับรู้ว่าพวกเขาจะทำเรื่องราวที่โหดร้ายหลังจากนี้
เมื่อสงครามดำเนินไปถึงจุดแตกหัก หนวดขาวเสียชีวิต และพันธมิตรกำลังถอยทัพ อาคาอินุก็ยังบ้าคลั่ง คิดแต่จะสังหาร ห้ำหั่น คร่าชีวิตโจรสลัดให้มากที่สุด โดยไม่สนใจเลยว่าทั้งฝั่งทหารเรือเองก็สูญเสียและบอบช้ำไปมากแล้ว
เมื่อโคบี้รวบรวมความกล้าเตือนสติ มีหรือที่คนบ้าอำนาจอย่างอาคาอินุจะยอมรับฟัง แถมยังพร้อมจัดการทหารที่ขัดคำสั่งโดยไม่ลังเล ก่อนที่แชงคูส 1 ใน 4 จักรพรรดิ์มาห้ามทัพเอาไว้ สามารถจำกัดระดับความสูญเสียไม่ให้มากไปกว่านี้
แปลกดีเหมือนกันที่โจรสลัดที่พวกเขาหวาดกลัวต้องเป็นฝ่ายมาหยุดยั้งความรุนแรงที่ทหารเรือเป็นคนปลุกเชื้อไฟให้รุนแรงขึ้นมา
ภาพประกอบ: พิชามญชุ์ วรรณสาร
อ้างอิง:
