The Unbearable Weight of Massive Talent หนังแอ็กชันคอเมดี้เรื่องล่าสุดของ Nicolas Cage ที่เรียกได้ว่าสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่แฟนๆ ตั้งแต่ปล่อยตัวอย่าง โดยเฉพาะการที่ Nicolas Cage ต้องมาสวมบทบาทเป็น Nick Cage ตัวละครสมมติที่ถูกแต่งขึ้นมาจากตัวเขาเอง
และหลังจากเปิดตัวฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อเดือนมีนาคม ภาพยนตร์ก็ได้เสียงตอบรับจากผู้ชมอย่างล้นหลามด้วยการกวาดคะแนนรีวิวจากนักวิจารณ์บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 100% เต็ม (คะแนนปัจจุบันอยู่ที่ 87% และได้คะแนนจากผู้ชมทั่วไปสูงถึง 87%) และด้วยเสียงตอบรับที่ดีเหล่านี้จึงทำให้ The Unbearable Weight of Massive Talent กลายเป็นผลงานของ Nicolas Cage ที่คอภาพยนตร์ต่างตั้งตารอมากที่สุด
The Unbearable Weight of Massive Talent ว่าด้วยเรื่องราวของ Nick Cage (Nicolas Cage) ที่กำลังตกอับอย่างสุดขีด ไม่มีงานแสดง แถมยังเป็นหนี้ก้อนโต กระทั่งวันหนึ่งมีมหาเศรษฐีนาม Javi (Pedro Pascal) ผู้เป็นแฟนพันธ์ุแท้ของ Nick Cage ได้ยื่นข้อเสนอให้มาร่วมงานวันเกิด โดยมีค่าจ้างที่สูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาจึงต้องยอมรับงานนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อ Nick Cage ได้รู้ความจริงว่ามหาเศรษฐีคนนี้คือพ่อค้ายารายใหญ่ที่ CIA ต้องการตัว แถมเหตุการณ์ยังบานปลายจนทำให้ Nick Cage ต้องเป็นสายลับให้กับเจ้าหน้าที่ CIA เพื่อหาทางจับกุม Javi เรื่องราวสุดวายป่วงของนักแสดง (เคย) ชื่อดังจึงเริ่มต้นขึ้น
คงจะไม่เกินจริงนักหากเราจะกล่าวว่า The Unbearable Weight of Massive Talent เป็นภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแฟนภาพยนตร์ของ Nicolas Cage อย่างแท้จริง เพราะตัวผู้กำกับ Tom Gormican และมือเขียนบท Kevin Etten ได้ใส่กิมมิกเกี่ยวกับภาพยนตร์ของ Nicolas Cage เข้ามาแบบไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวถึงชื่อของภาพยนตร์, ฉากสุดไอคอนิกของ Nicolas Cage ที่ถูกใส่เข้ามา ไปจนถึงพร็อพจากภาพยนตร์เรื่องต่างๆ ซึ่งเราต้องสารภาพตามตรงว่ามีหลายฉากเหมือนกันที่เราตามไม่ทัน จนต้องกลับไปนั่งเสิร์ชหาว่าสิ่งที่ถูกใส่เข้ามานั้นมาจากภาพยนตร์เรื่องอะไรบ้าง
ดังนั้นแล้วเราคิดว่าหากใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์ของ Nicolas Cage ชนิดที่ว่าตามเก็บทุกเรื่อง จำได้ทุกฉาก น่าจะสนุกสนานไปกับเรื่องราวของ The Unbearable Weight of Massive Talent อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามผลงานของ Nicolas Cage อย่างใกล้ชิดมากนัก (เช่นเดียวกับตัวผู้เขียน) The Unbearable Weight of Massive Talent ก็ยังเป็นภาพยนตร์ที่โดดเด่นด้วยความตลกขบขันและการแสดงแบบสุดโต่งของ Nicolas Cage และ Pedro Pascal ที่สร้างเสียงหัวเราะแก่ผู้ชมได้ดีเช่นกัน
โดยเฉพาะบทสนทนาและการกระทำของทั้งคู่ที่ไปสุดในทาง จนทำให้สถานการณ์ธรรมดาๆ กลายเป็นสถานการณ์ที่เวอร์วังอลังการเกินคำบรรยาย รวมถึงฉากแอ็กชันที่แม้จะไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ภาพยนตร์ก็นำเสนอฉากแอ็กชันเหล่านั้นด้วยท่วงท่าที่บ้าๆ บอๆ ซึ่งสร้างความสนุกให้เราได้ดีทีเดียว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า The Unbearable Weight of Massive Talent จะเป็นภาพยนตร์ที่อัดแน่นไปด้วยความตลกขบขันและการแสดงสุดเวอร์วังของ Nicolas Cage และ Pedro Pascal แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือเนื้อเรื่องที่ดูเรียบง่าย ไม่ต้องทำอะไรที่ลึกซึ้งหรือซับซ้อนเกินไปเพื่อเน้นความสนุกสนานและตลกขบขันอย่างเต็มที่ แม้ว่าภาพยนตร์จะมีการสอดแทรกประเด็นดราม่าของตัวละคร Nick Cage ที่ต้องเผชิญวิกฤตของชีวิต แต่ด้วยกลวิธีนำเสนอที่ไม่ได้เข้มข้นจริงจังมากนัก มันจึงส่งผลให้เราไม่ได้รู้สึกอินไปกับสิ่งที่ตัวละครกำลังรู้สึกอย่างที่ควรจะเป็น
ซึ่งโดยส่วนตัวเรามองว่าประเด็นดังกล่าวก็ดูจะไม่ใช่จุดด้อยของภาพยนตร์เท่าไร เพราะตัวผู้กำกับและทีมสร้างค่อนข้างชัดเจนพอสมควรว่าพวกเขาต้องการจะนำเสนออะไรให้กับผู้ชม ซึ่งเรื่องราวสุดวายป่วงของ Nick Cage และ Javi ก็สามารถสร้างเสียงหัวเราะให้เราได้อย่างที่พวกเขาต้องการจริงๆ
ในภาพรวมแล้ว The Unbearable Weight of Massive Talent คือภาพยนตร์แอ็กชันคอเมดี้ที่ทำหน้าที่สร้างความสนุกสนานให้กับเราได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะการแสดงของ Nicolas Cage และ Pedro Pascal ที่ดูเหมือนจะล้นเกินเบอร์ แต่กลับลงตัวอย่างน่าประหลาด และสำหรับใครที่เป็นแฟนตัวยงของ Nicolas Cage เราเชื่อว่าคุณจะสนุกสนานไปภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน
The Unbearable Weight of Massive Talent เข้าฉายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์
รับชมตัวอย่างได้ที่นี่
อ้างอิง:
