×

ดูซาน ทาดิช มิดฟิลด์จอมพลิ้วผู้ค้นพบตัวเองอีกครั้งกับอาแจกซ์

06.03.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 MINS READ
  • ดูซาน ทาดิช มิดฟิลด์ วัย 30 ปี มีส่วนสำคัญในการพาอาแจกซ์คว้าชัยเหนือเรอัล มาดริด สร้างประวัติศาสตร์ส่งแชมป์ 3 สมัยล่าสุด ตกรอบ 16 ทีมเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010
  • ทาดิชนับเป็นมิดฟิลด์ที่มีศักยภาพในเกมรุก แต่เขาเคยหลงทางไปกับสภาพแวดล้อมของทีมที่เน้นเกมรับในช่วงท้ายกับเซาแธมป์ตันจนหลายคนเริ่มหมดศรัทธาในความสามารถ
  • การกลับคืนสู่เนเธอร์แลนด์อีกครั้งของเขาจึงเป็นเหมือนการค้นพบตัวตนในฟุตบอลอีกครั้งของมิดฟิลด์ชาวเซอร์เบียผู้นี้

หลายคนอาจจะเริ่มต้นวิเคราะห์หนทางต่อจากนี้สำหรับอนาคตของราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ในวันที่แชมป์ 3 สมัยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีนาคม ปี 2015 ที่พวกเขาตกรอบฟุตบอลรายการนี้ พร้อมกับสถานการณ์ที่มีแต้มตามหลังบาร์เซโลนา คู่ปรับร่วมลีก ในลาลีกา สเปนอยู่ถึง 12 คะแนน

 

แต่สิ่งที่ผู้คนพูดถึงมากที่สุดอีกหนึ่งเหตุการณ์คือ ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่งของ ดูซาน ทาดิช มิดฟิลด์จอมพลิ้ววัย 30 ปีของอาแจกซ์ ที่ทำคนเดียว 1 ประตู และ 2 แอสซิสต์ในเกมนี้ บวกกับหนึ่งซีดานเทิร์น หลบ คาเซมิโร กองกลาง เรอัล มาดริด ที่นำไปสู่การทำประตูได้สำเร็จ

 

 

ฟอร์มการเล่นครั้งนี้ ทาดิช อดีตนักเตะของเซาแธมป์ตัน ถูก เลอกิ๊ป สื่อชื่อดังของฝรั่งเศสยกย่องให้เป็นนักเตะคนที่ 9 ในประวัติศาสตร์ที่ได้คะแนนความสามารถ 10 เต็ม จากฟอร์มการเล่นนัดที่เอาชนะเรอัล มาดริด แชมป์เก่าไป 4-1 ในเกมเมื่อคืนวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา

 

“นี่คงเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดที่ผมเคยเล่นมาเลย” ทาดิชให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อหลังเกมที่มาดริด

 

“เราเอาชนะทีมที่ดีสุดในโลก ผมภูมิใจและคิดว่าได้มอบความสุขให้กับหลายคนเลย

 

“ในการเล่นฟุตบอลคุณต้องผ่อนคลายและมีความสุขกับการเล่น เรามีทีมที่ดีมาก และเราเล่นฟุตบอลได้อย่างสวยงาม

 

“ซีดานคือนักเตะที่ผมชื่นชอบมากที่สุด สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้อาจเกิดขึ้นเพราะผมดูคลิปของเขามากไปหน่อย”

 

บทสัมภาษณ์สะท้อนให้เห็นถึงความสุขที่เขามีกับสโมสรแห่งนี้ จากชัยชนะครั้งสำคัญของทีมที่เพิ่งจะผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2004-2005 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่ทาดิชย้ายมาร่วมกับสโมสรยักษ์ใหญ่ของลีกเนเธอร์แลนด์

 

ความสำเร็จกับการเกิดใหม่อีกครั้งในลีกเนเธอร์แลนด์ของทาดิช

 

 

ดูซาน ทาดิช เป็นนักเตะที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทุกเกม ยกเว้นเกมแรกของฤดูกาล สำหรับแคมเปญของอาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ตรงข้ามกับเซาแธมป์ตัน ต้นสังกัดก่อนหน้านี้ ที่เพิ่งจบฤดูกาลพรีเมียร์ลีก หนึ่งอันดับเหนือโซนตกชั้น บวกกับการตกรอบแรกคาราบาว คัพ และตกรอบรองชนะเลิศเอฟเอคัพ

 

แน่นอนว่าจากสถานการณ์ของเซาแธมป์ตัน หลายฝ่ายสงสัยถึงความสามารถของ ทาดิช ในวันที่เขาดูไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่อาแจกซ์ก็ยังตัดสินใจควักเงิน 10 ล้านปอนด์ดึงตัวมาร่วมทัพอยู่ดี

 

สิ่งหนึ่งที่อาแจกซ์มองเห็นอาจเป็นสิ่งที่ทาดิชได้แสดงออกมาในช่วงแรกกับเซาแธมป์ตัน ภายใต้การคุมทีมของ โรนัลด์ คูมัน กุนซือชาวเนเธอร์แลนด์ ประเทศมหาอำนาจทางฟุตบอลที่ทาดิชชื่นชอบ

 

สภาพแวดล้อมปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ

 

 

เมื่อเดือนกันยายน ปี 2018 ทาดิชให้สัมภาษณ์กับ Goal.com ถึงประสบการณ์ของเขาในเนเธอร์แลนด์ว่า “เป็นสถานที่ที่ใช้ชีวิตได้ดีกว่าในอังกฤษ อังกฤษมีเพียงลอนดอน แต่ที่นี่ทุกอย่างสะอาดและถนนหนทางดี เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์”

 

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า นักกีฬาจะทำผลงานได้ดีกว่าถ้าพวกเขามีความสุขกับ สภาพแวดล้อม

 

แต่นอกเหนือจากการใช้ชีวิตในเนเธอร์แลนด์ ความคุ้นเคยกับฟุตบอลอาจเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาสบายใจ จากประสบการณ์ที่เขาเคยค้าแข้งกับโกรนิงเก้น และทเวนเต้ ตั้งแต่ปี 2010-2014 พร้อมกับผลงาน 46 ประตู 68 แอสซิสต์ จากการลงเล่นทั้งหมด 161 เกม

 

 

ด้วยผลงานนี้ เปิดโอกาสให้เขาได้รับความสนใจจากอังกฤษ จนสุดท้ายย้ายไปร่วมทีมเซาแธมป์ตัน เมื่อปี 2014 ซึ่งในฤดูกาลที่สองของเขากับทีม เขากลายเป็นดาวเด่นประจำทีมด้วยทักษะการเล่น การสร้างสรรค์เกม และการส่งบอลเชื่อมต่อเกม บวกกับผลงาน 8 ประตู และ 13 แอสซิสต์ และแน่นอนว่าสองฤดูกาลแรกคือช่วงเวลาที่เขาได้ร่วมงานกับโค้ชโรนัลด์ คูมัน จากเนเธอร์แลนด์ สไตล์ฟุตบอลที่เขาชื่นชอบมากเป็นพิเศษ

 

“โค้ชชาวเนเธอร์แลนด์มีปรัชญาเกมรุก พวกเขาต้องการที่จะเอาชนะทุกเกมแบบมีสไตล์การเล่นที่สวยงาม” ทาดิชกล่าวถึงช่วงเวลาที่เขาเริ่มต้นร่วมงานกับคูมัน

 

แต่แล้ววันหนึ่ง โรนัลด์ คูมัน ก็หลุดจากตำแหน่งผู้จัดการทีม และกลายเป็น โคล้ด ปูแอล, มานูเอล เปเยกรีนี และ มาร์ก ฮิวส์ ที่มีสไตล์การเล่นซึ่งมีหัวใจเกมรับที่แข็งแกร่งมาก่อนเกมรุกที่ดุดัน ทำให้อิสระในเกมรุกของทาดิชเริ่มหมองหม่นไปกับปรัชญาที่เปลี่ยนแปลง

 

 

มาถึงวันนี้ เอริก เทน ฮาก กุนซืออาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่ปรับเอาปรัชญาเกมรุกที่มีโอกาสได้เรียนรู้จาก เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่บาเยิร์น มิวนิก ในฐานะผู้จัดการทีมสำรอง เมื่อปี 2013-2015 มาใช้ด้วยการเน้นการครองบอล ดันเพรสซิงสูงเพื่อเอาบอลคืน และหาโอกาสรุกในทุกจังหวะ จึงมีส่วนสำคัญในการดึงเอาศักยภาพสูงสุดของทาดิชกลับคืนมาได้อีกครั้ง

 

 

ทาดิชในวัย 30 ปี แสดงให้เห็นว่า ถ้าความพยายาม ความทุ่มเท และความสามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผิด คุณก็อาจจะพบเจอปัญหาเหมือนที่เขาเผชิญได้เหมือนกัน

 

แต่ในวันที่เขาค้นพบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ทาดิชก็เผยให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจนสามารถพาทีมที่เคยต้องลุ้นหนีการตกชั้น ขึ้นมาสู่ทีมที่กำลังรอลุ้มแชมป์ได้อย่างสวยงาม ทั้งยังได้ค้นพบฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของตัวเองในวัย 30 ปีอีกครั้ง

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising