พื้นที่บริเวณ โรงแรมเดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก นั้นเดิมเคยเป็นเรือนพักอาศัยของ ‘พระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา’ พระนมของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และเมื่อโรงแรมบูติกจำนวน 38 ห้องแห่งนี้เปิดให้บริการ จึงได้นำคอนเซปต์ของสถาปัตยกรรมการตกแต่งในสมัยนั้นมาใช้ รวมถึงห้องอาหารที่ยกเอาคอนเซปต์ ‘รสมือของพระนมทัต’ ขึ้นมาชู โดยเป็นอาหารไทยสมัยโบราณ ซึ่งแม้จะไม่ได้มีพระนมทัตมาปรุงให้จริงๆ แต่ความอร่อยคงไม่แพ้กันสักเท่าใด ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาร้านอาหารไทยรสชาติและบรรยากาศดี เราขอแนะนำร้านนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก
The Vibe
อาคารเดิมของเรือนสร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เป็นส่วนหนึ่งของบริเวณวังเทเวศร์ โดยตัวอาคารสร้างแบบหมู่เรือนพักอาศัยที่ได้รับอิทธิพลมาจากสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ได้ถูกต่อเติมขยายจากเรือนหลักออกมายังริมถนนกรุงเกษม อาคารสีเขียวไก่กาหลังใหญ่ได้รับการตกแต่งให้สดใส เมื่อก้าวเท้าเข้ามาในโรงแรมเราจึงรู้สึกราวกับที่นี่เป็นเรือนของผู้ดีไทยในสมัยก่อน
ภายในห้องอาหารเดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง ตกแต่งโดยใช้สีเทาอมฟ้าเป็นหลัก โต๊ะอาหารหินอ่อนกับเก้าอี้ไม้บุนวมสีเทา เพิ่มเติมด้วยหมอนพิงหลังลวดลายน่ารัก ตกแต่งผนังด้วยจานลายโบราณและรูปวาดที่ทำให้นึกถึงความเป็นไทยสมัยก่อน
The Dishes
ความจริงแล้วที่นี่มีเมนูอาหารตะวันตกและไทยฟิวชันด้วย แต่วันนี้เรามารีวิวเจาะลึกอาหารไทยตามคอนเซปต์ ‘รสมือพระนมทัต’ กันโดยเฉพาะ เริ่มต้นที่อาหารว่างเรียกน้ำย่อยของไทยอย่าง ม้าฮ่อ (140 บาท) ที่ด้านบนคือก้อนปั้นคล้ายๆ กับไส้สาคู ทำมาจากหมูสับ กุ้งสับ ถั่วลิสงคั่ว และหอมแดงผัดกับเครื่องเทศ ส่วนบริเวณฐานเป็นผลไม้รสเปรี้ยว ซึ่งที่นี่เลือกใช้สับปะรดหอมสุวรรณที่รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี จานนี้กินเล่นได้เพลินๆ แม้จะมาในขนาดพอดีคำ แต่นับจำนวนแล้วก็ไม่น้อยเลย จานเรียกน้ำย่อยรายการถัดไปคือ หมี่กรอบ (140 บาท) ซึ่งแม้จะเป็นอาหารที่หารับประทานได้ทั่วไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าหาร้านที่อร่อยจริงๆ ได้ยากเต็มที หมี่กรอบของที่นี่สอบผ่านและได้คะแนนดีเสียด้วย เพราะเส้นหมี่ไม่เหนียวติดกัน หอมกลิ่นส้มฉุนสดชื่น และไม่หวานเลี่ยนเหมือนที่ส่วนใหญ่มักจะเป็นกัน
อาหารชุดต่อไปเป็นจานเส้น ได้แก่ ขนมจีนซาวน้ำ (290 บาท) จานใหญ่ เครื่องมาแบบอลังการ ได้แก่ เส้นขนมจีนที่ครัวระวีกัลยาทำเองสดๆ สับปะรดหอมสุวรรณ กุ้งแห้งมหาชัยป่น แจงลอนสองแบบ กับน้ำกะทิแบบห่อตองย่างไฟอ่อน จานนี้อร่อยกินง่าย แต่แนะนำว่าสั่งมาแชร์กันกินหลายๆ คนจะดีกว่า เพราะจานใหญ่โตมาก ส่วนใครที่ชอบกิน ข้าวซอย (ไก่ 250 บาท / เนื้อ 290 บาท ) เราว่ารสชาติข้าวซอยของที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะน้ำซุปได้รสเครื่องแกงเผ็ดเค็มและหวานกำลังพอดี ส่วนพริกเติมนั้นค่อนข้างเผ็ดระห่ำ แนะนำให้เติมแต่น้อย
จบของคาวกันที่จานไฮไลต์ประจำวันนี้ เป็นคนไทยแท้จะขาดน้ำพริกไปไม่ได้ น้ำพริกถ้วยเด็ดของพระนมทัตคือ น้ำพริกลงเรือ (190 บาท) ชุดผักจัดเต็มกับปลาสลิดฟู พร้อมน้ำพริกถ้วยใหญ่เผ็ดนำจัดจ้าน ทว่ากลมกล่อมครบรส ตบท้ายด้วยของหวานคือ ขนมเหนียว (120 บาท) ขนมไทยดั้งเดิมที่หารับประทานได้ยาก แป้งข้าวเหนียวนุ่มลิ้นคลุกและโรยมะพร้าวขูด เวลากินจะต้องโรยข้าวพองทอดกรอบและราดด้วยไซรัปน้ำตาลปี๊บ ได้สัมผัสของแป้งนุ่มๆ ความหอมมันของมะพร้าว กรุบกรอบด้วยข้าวพอง เติมระดับความหวานได้ตามใจชอบ
The Drinks
ที่นี่มีเครื่องดื่มหลายชนิด เราได้ลอง น้ำอัญชันมะนาว (80 บาท) เปรี้ยวหวานสดชื่น นอกจากนี้ยังมีน้ำสมุนไพรอื่นๆ อย่างน้ำมะตูมและน้ำผลไม้อีกหลายชนิดให้เลือกจิบอีกหลายรายการ
Open: เปิดบริการทุกวัน 6.30-22.00 น.
Address: 10,16,16/1,164-172 ซอยเทเวศร์ 2 ถนนกรุงเกษม แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
Budget : เริ่มต้นที่ 120 บาท
Contact: 0 2628 5999
Website: www.raweekanlaya.com/th-th/cuisine/the-raweekanlaya-dining.htm
Map: