หลังจากได้ทำความรู้จักกับโปรแกรม AIA FA เราก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ กอล์ฟ-ดลตทร ธนทัดนัททนน นักเรียนนอกที่กลับมาทำงานในเมืองไทยด้วยแนวคิดคนรุ่นใหม่สุดๆ คืออยากทำงานแบบอิสระและเป็นเจ้านายตัวเองจากการชักชวนโดยคนในครอบครัวให้ลองสักตั้งกับการเป็นที่ปรึกษาการเงินและประกัน โดยเข้าร่วมโปรแกรม AIA FA ที่สอนให้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง และยังเข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองให้ได้มีชีวิตที่อิสระ แต่ในขณะเดียวกันก็เติบโตขึ้นกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีระบบระเบียบในชีวิตด้วย
จุดเริ่มต้นของความสนใจในโปรแกรม AIA FA คืออะไร
ผมเรียนเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวกับการเงินอยู่แล้ว พอศึกษาเยอะ จะเห็นว่าช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดีมันก็จะส่งผลกระทบหลายอย่าง แต่ถ้าลองมองไปประเทศที่เขาพัฒนาแล้วอย่างสิงคโปร์ เขาไม่โดนผลกระทบอะไรเลย เพราะเป็นประเทศที่มีการวางแผนทางการเงินที่ดี จึงเริ่มการศึกษาการวางแผนทางการเงินซึ่งทำให้เรารู้ว่าจริงๆ มันเป็นเรื่องจำเป็น ผมเคยเทรดการซื้อขายใบสัญญาคอนโดฯ ด้วย พอทำไประยะหนึ่งก็ตัน เพราะสุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์เศรษฐกิจไม่ดี ฟองสบู่แตก ก็เลยต้องหยุด และเพราะเราไม่อยากเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่ก็ยังอยากทำงานที่มั่นคง เพราะผมก็แก่ขึ้นทุกปี
แตกต่างจากสิ่งที่คิดไหมเมื่อได้ลองเข้ามาทำงานเป็นตัวแทน
เมื่อก่อนผมเคยวิ่งหนีนะ ไม่เคยคิดที่จะมาเป็นตัวแทน เด็กอายุ 25 ปี เรียนจบต่างประเทศมา แต่พอเข้ามาทำงานนี้แล้วเราก็กล้าขึ้น แล้วก็เปลี่ยนตัวเราทุกอย่างเลย ตั้งแต่เรื่องเวลาตื่นนอน เพราะโปรแกรมนี้บังคับให้เราเข้าเรียนด้วย มันทำให้ผมรู้สึกโตขึ้น รับผิดชอบมากขึ้น รู้จักการวางแผน
อย่างคลาสเรียนของโปรแกรม AIA FA สอนวิชาอะไรบ้าง
โปรแกรมนี้ดีตรงที่เขาจัดและออกแบบคลาสเรียนให้เราเลยภายใน 1 เดือน เหมือนโปรแกรมที่ไปเวิร์กช็อป ซึ่งถ้าเป็นตัวแทนธรรมดาก็ต้องคอยดูว่าบริษัทจะมีอบรม ก็จะดูว่าวันนั้นจะอบรมเรื่องอะไร แต่โปรแกรม AIA FA จะรวมให้เรียนเลย ซึ่งก็จะมีคลาสเรียนหลายๆ อย่างครบวงจร ตั้งแต่อบรมเรื่องสินค้าประกัน ไปจนถึงวิธีการฝึกพูด วิธีการแต่งตัว วิธีประสบความสำเร็จ มาแชร์วิธีการขายกัน ในช่วงแรกเราจะมีไปออกตลาด เหมือนให้เราทำมาร์เก็ตติ้ง รีเสิร์ชเองเลย มันช่วยสร้างให้เรามีความกล้า
รู้สึกอย่างไรกับงานประจำนี้บ้าง
ส่วนตัวผมเองอยากทำงานที่ไม่เหมือนการทำงาน โปรแกรมนี้เหมือนทำให้เราได้กลับไปเรียนอีกครั้ง แล้วก็ได้ทำงานที่ไม่เหมือนงานประจำ เราสามารถออกแบบชีวิตส่วนตัวได้ หัวหน้าหรือลูกค้าจะนัดเมื่อไร เราก็จัดสรรเวลาเองแล้วก็ไปตามนัดนั้นๆ
เป้าหมายต่อไปในอนาคตของคุณเป็นอย่างไร
เราทำงานโดยมีเป้าหมายเรื่องยอดขายอยู่แล้ว ซึ่งก็จะมีเป้าหมายใหญ่ที่เราต้องการจะไปให้ถึงอย่าง MDRT ซึ่งเป็นเวทีของที่ปรึกษาการเงินระดับโลก ซึ่งคนที่ได้ไปจะต้องผ่านเกณฑ์ตามยอดที่ขายได้ ซึ่งผมเองก็กำลังจะไปสัมมนาเดือนมิถุนายนนี้ที่สหรัฐอเมริกา ผมวางเป้าขั้นต่ำที่ว่าจะติด MDRT ให้ได้ทุกปี และเมื่อคุณทำได้ มันก็จะไปเข้าข่ายกับเกณฑ์หลายๆ ของบริษัทด้วย ซึ่งการตั้งเป้าหมายเช่นนี้ไว้จะทำให้เราทำงานง่ายขึ้น เพราะเรามองเห็นว่าแต่ละเดือนเราต้องทำอะไรบ้าง ภายใน 3 ปีผมอยากจะติดคุณวุฒิ COT (Court of The Table) ซึ่งเป็นระดับคูณสาม เป็นเวทีของคนทั่วโลกซึ่งเรารู้สึกว่ามันท้าทายมากเมื่อเรามีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น
คุณคิดว่าคนรุ่นใหม่จะเหมาะกับโปรแกรมนี้อย่างไร
คนรุ่นใหม่ไฟแรง อยากลอง ไม่ยึดติดกับสิ่งเดิมๆ นี่จะเป็นจุดเปลี่ยนบางอย่างที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้น
ประสบการณ์ที่ผ่านมา
MDRT Experience 2017 ที่กวางโจว ประเทศจีน
Junior Convention 2017 ที่ฮ่องกง
FA Young Ambassador ได้ที่ 1
MDRT Annual Meeting 2018 ที่ลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา